Ai คือสิ่งที่แวดวงธุรกิจรวมถึงอุตสาหกรรมให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก แม้แต่คนทั่วไปก็อาจจะเคยได้ยินคำว่า Ai กันมาอย่างเนิ่นนานแล้ว บางคนรู้จัก Ai ผ่านภาพยนตร์หรือซีรีส์ต่างๆ ส่วนชีวิตประจำวัน Ai เข้ามามีบทบาทมากกว่าที่เราคาดคิด เพราะมีหลักการทำงานที่สามารถคิดและให้ความรู้สึกจริง พร้อมกับให้ความรู้ต่างๆ ในด้านธุรกิจกับชีวิตของคนเราได้ทำให้แวดวงอุตสาหกรรมมีความสะดวกสบายและยังถูกนำมาใช้มากมายไม่ว่าจะเป็นโรงงาน โรงพยาบาล รวมไปถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยต่างๆ เป็นการประยุกต์ใช้ Ai ในธุรกิจ รวมถึงซอฟต์แวร์ที่แอนตี้ในระบบคอมพิวเตอร์เพื่อรักษาความปลอดภัยและขยายการตลาดวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าได้

Ai คืออะไร? มาทำความรู้จักไปพร้อมกัน

Ai คือ ปัญญาประดิษฐ์ Ai ย่อมาจาก Artificial Intelligence คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่มีฟังก์ชันสามารถทำงานได้เหมือนกับมนุษย์และเลียนแบบการทำกิจกรรมของมนุษย์ได้ด้วยการเรียนรู้วางแผน แก้ไขปัญหา เป็นตัวช่วยที่ทำให้มนุษย์คิดเน้นไปที่การประมวลผลวิเคราะห์ข้อมูลและพฤติกรรมต่างๆ สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วมากกว่าสมองของมนุษย์ แต่ในขณะเดียวกัน Ai ก็ยังไม่สามารถทำหน้าที่ใช้ประสาทสัมผัสได้

หลักการทำงานของ Ai

หลักการทำงานของ Ai คือ ระบบวิเคราะห์ข้อมูลประมวลผลเพื่อให้ได้ผลตอบมาว่าไม่ว่าจะใช้คำพูดหรือข้อความใดมาก็ตามก็จะเอาผลลัพธ์นั้นมาใช้ให้ตรงกับจุดประสงค์ ทั้งยังสามารถใช้รูปแบบการทำงานเพื่อคาดเดาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในอนาคตได้แชตบอร์ด ที่ตอบข้อความอัตโนมัติได้เหมือนกับคน รวมถึงการจดจำภาพซึ่งการทำงานของระบบทั้งหมดนั้นจะถูกเขียนโปรแกรมขึ้นมาโดยการเขียนโปรแกรม Ai นั้นก็จะต้องมีทักษะการรับรู้ดังต่อไปนี้ 

• การเรียนรู้ โดยเน้นที่การรับข้อมูลการสร้างกฎสำหรับการเปลี่ยนข้อมูลที่จะนำไปใช้ได้จริงหรือที่เรียกว่าอัลกอริทึม
• การใช้เหตุผล เหตุผลในการตัดสินใจเลือกอัลกอริทึมที่เหมาะสมและให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ
• การแก้ไขข้อผิดพลาด ในส่วนนี้เราได้รับการปรับแต่งอัลกอริทึมได้อย่างละเอียดเพื่อรับประกันว่าจะได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำมากที่สุด
• การมีความคิดสร้างสรรค์ เป็นส่วนที่ใช้เครือข่ายประสาทเทียมรวมถึงวิธีทางสถิติเทคนิคอื่นๆ

จุดประสงค์ในการใช้เทคโนโลยี Ai

จุดประสงค์ ของการใช้งานเทคโนโลยี Ai คือมีความสามารถหลากหลายในงานธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งจุดประสงค์ของหลักการทำงานของ Ai นั้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการทำงาน ช่วยวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลจำนวนมากมายได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว ระบบ Ai ตรวจสอบข้อมูล เพื่อดึงข้อมูลเชิงลึกมาใช้กับธุรกิจประเภทอุตสาหกรรมได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้เทคโนโลยี Ai ยังช่วยลดความผิดพลาดในด้านการทำงานที่เกิดขึ้นได้ รวมไปถึงค้นหาพฤติกรรมของผู้บริโภคได้จากชุดข้อมูลที่มีเพื่อยกระดับธุรกิจอุตสาหกรรมให้มีศักยภาพแข็งแกร่ง พร้อมกับแข่งขันใน ธุรกิจได้ในระยะยาวอย่างแน่นอน

5 ประโยชน์การใช้งาน Ai ในธุรกิจ

ในปัจจุบันระบบ Ai คือหนึ่งในเทคโนโลยีที่ถูกนำมาใช้ประโยชน์ด้านธุรกิจและมีแนวโน้มที่สูงมากขึ้นเรื่อยๆ โดยการคาดเดาในปี 2027 มูลค่าตลาด Ai เพิ่มขึ้นถึง 267 1,000,000,000 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 800,000 ล้านบาทโดยในวันนี้เราก็จะมาเจาะลึก Ai ว่ามีประโยชน์ในธุรกิจอย่างไรบ้าง

1. ทำการตลาดแบบ Personalized Marketing ที่มีความแม่นยำสูง

ข้อดีของ Ai การทำการตลาดที่ออกแบบมาเฉพาะบุคคล จากประสบการณ์ของกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายและด้วยคุณสมบัติของ Ai คือตัวช่วยในการประมวลผลและคาดการณ์ข้อมูลทำให้การตลาดแบบ Personalized Marketing มีความแม่นยำมากยิ่งขึ้นตัวอย่างเช่นเราใช้ Ai ในการตลาดเฉพาะบุคคลของ Starbucks เพื่อเสนอส่วนลดให้กับสมาชิกผ่านอีเมลโดยเป็นเมนูที่ใกล้เคียงกับลูกค้าสั่งประจำ จะแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มความชอบของลูกค้าซึ่งจะส่งส่วนลดในเมนูที่ลูกค้าชอบช่วยเพิ่มโอกาสให้ลูกค้ากลับมาซื้อที่สตาร์บัคส์อีกครั้งนึง

2. ใช้หุ่นยนต์ในการจัดส่งสินค้า

Ai ทําอะไรได้บ้าง ในร้านอาหารหรือผู้ประกอบการจะใช้ Ai ในส่วนของการขนส่งดิลิเวอรีโรบอต ซึ่งมีหลายแบนเริ่มต้นใช้งานได้จริง โดยเขานั้นให้ความสนใจกับธุรกิจที่ลดระยะเวลาการส่งไม่ให้มีความยาวนาน รวมทั้งยังเป็นทางออกของการแก้ปัญหาต่างๆ ที่จากเดิม ใช้เวลาขนส่ง 2 ชั่วโมงเหลือเพียง 20 นาทีเท่านั้น

3. สำรวจพฤติกรรมลูกค้าด้วยระบบ Facial Recognition

Ai คือเครื่องมือสามารถใช้ความสามารถของตนเองจดจำใบหน้าของมนุษย์จำแนกและสำรวจตำแหน่งของสิ่งของต่างๆ ในพื้นที่ได้มาปรับใช้ในธุรกิจช่วยให้การสำรวจพฤติกรรมของลูกค้าแม่นยำมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเห็นได้จากกรณีศึกษาของ walmart ที่เปลี่ยนร้านค้าธรรมดาให้เป็นร้านค้าในอนาคตด้วย Ai ซึ่งระบบดังกล่าวจะมีระบบจดจำใบหน้าของลูกค้าและสำรวจพฤติกรรมเมื่อลูกค้าหยิบขนมปังออกมาจากชั้นวางจานหมด ระบบแจ้งเตือนพนักงานให้มาเติมขนมปังเพื่อ สร้างโอกาสในการขายสินค้าให้มากยิ่งขึ้น

4. จัดการปัญหาคลังสินค้า

ในธุรกิจที่มีสินค้าในคลังจำนวนมาก อาจจะไม่รู้เลยว่าสินค้าไหนมีประสิทธิภาพหรือสินค้าไหนที่ไม่เกิดประโยชน์ Ai คือตัวที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการจัดการปัญหาดังต่อไปนี้ด้วยระบบการวิเคราะห์ข้อมูลคลังสินค้า เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าและความต้องการและช่วยลดปัญหาสินค้าที่ไม่ตอบโจทย์

5. วิจัยและพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์

Ai คือตัวช่วยในการวิจัยและพัฒนาสินค้าเป็นอีกหนึ่งหัวใจในการทำธุรกิจให้เติบโตโดยใช้ Ai เข้ามามีบทบาทสำคัญในการวิเคราะห์ข้อมูลและวิจัยเพื่อนำไปพัฒนาให้แม่นยำมากยิ่งขึ้น โดยหนึ่งในตัวอย่างในการพัฒนาสินค้าด้วย Ai มีความน่าสนใจจากแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง โคคา-โคล่า ที่นำมาวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าเพื่อต่อยอดเป็นสินค้าที่ดีที่สุด

สรุปบทความ

เทคโนโลยี Ai คือโปรแกรมที่ถูกสร้างมาทำงานได้เหมือนกับมนุษย์ซึ่งหลักการทำงานของ Ai นั้นส่วนสำคัญในการช่วยให้ธุรกิจและอุตสาหกรรมเติบโตได้เป็นอย่างมาก เพราะสามารถช่วยลดการทำงานที่ซ้ำซ้อน มีความปลอดภัยรวมถึงยังช่วยรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากได้เป็นอย่างดีเยี่ยม จึงทำให้ข้อมูลเชิงลึกมีความแม่นยำจึงจะนำธุรกิจประสบความสำเร็จได้ในอนาคต การตรวจสอบสลิปโอนเงินบางโปรแกรมก็มีการใช้เทคโนโลยีนี้มาช่วยเช่นเดียวกัน

ก่อนเปิดกิจการร้านอาหาร เจ้าของร้านอาหารต้องดำเนินการอะไรเป็นลำดับแรกกันนะ วันนี้เราจะเปิดตำรากฎหมายการเปิดร้านอาหารอย่างกระชับเข้าใจง่าย ให้ผู้ประกอบการได้จำไปเป็นแนวทางการเปิดร้านอาหารอย่างมีขั้นตอน จะเปิดร้านอะไรสำคัญที่สุด การขอใบอนุญาตในการเปิดร้านอาหารต้องทำอย่างไร กฎหมายที่ต้องใส่ใจมีอะไรบ้าง บทความนี้รวบรวมคำตอบมาให้แล้ว

7 ข้อกฎหมายการเปิดร้านอาหาร มีอะไรบ้าง

สำหรับกฎหมายการเปิดร้านอาหารนั้นที่สำคัญๆ มีอยู่ 7 ข้อที่เจ้าของร้านต้องใส่ใจเป็นพิเศษ ขึ้นชื่อว่ากฎหมายต้องมีรายละเอียดค่อนข้างมาก เราสรุปให้เข้าใจง่ายๆ ดังนี้

1. การจัดตั้งธุรกิจ

หากคุณไม่ได้เปิดร้านอาหารแบบหาบเร่ แผงลอยหรือสตรีมฟู้ดต้องรู้! ก่อนจะเปิดร้านอาหารต้องจัดตั้งธุรกิจให้ถูกต้องตามกระบวนกฎหมายการเปิดร้านอาหาร สำหรับร้านอาหารที่มีเจ้าของเป็นบุคคลธรรมดาก็สามารถยื่นเรื่องจัดตั้งได้ด้วย “ทะเบียนพาณิชย์” แต่สำหรับร้านที่เป็นเจ้าของโดยนิติบุคคลต้องจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ให้เรียบร้อย

2. การขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจร้านอาหาร

หากร้านอาหารที่ต้องการเปิด มีพื้นที่ 200 ตารางเมตรขึ้นไปเจ้าของร้านหรือตัวแทนนิติบุคคลต้องไปขอใบอนุญาตการเปิดร้านอาหารจากหน่วยงานราชการส่วนท้องถิ่นของตัวเอง ให้ออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจให้ แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ 

1. ใบอนุญาตหรือหนังสือรับรองการแจ้งจัดตั้งสถานที่จำหน่ายอาหารในกรณีที่เปิดร้านอาหารในอาคาร 
2. ใบอนุญาตจำหน่ายสินค้าในที่หรือทางสาธารณะในกรณีที่ต้องการเปิดร้านอาหารบริเวณริมทางหรือที่ทางสาธารณะ

3. การจัดเตรียมสถานที่

การตัดเตรียมสถานที่ให้ถูกต้องตามกฎหมายการเปิดร้านอาหารนั้นต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาหารซึ่งมีกฎหมายหลายฉบับเกี่ยวข้องตั้งแต่ประเภทของอาหาร ประเภทของภาชนะ การจ้างงานของบุคลากรในร้านและเรื่องระบบร้านอื่นๆ เพื่อให้ถูกต้องตามที่กระทรวงสุขลักษณะกำหนด กรณีที่เป็นร้านเล็กๆ หรือสตรีทฟู้ดต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าพื้นที่ที่ต้องการเปิดร้านนั้นอยู่ในเขตพื้นที่ผ่อนผันหรือไม่ สามารถตรวจสอบด้วยตัวเองได้ที่พื้นที่ราชการนั้นๆ นอกจากนั้นต้องจัดเตรียมระบบต่างๆ ภายในร้านอย่างถูกต้อง ตั้งแต่รับออเดอร์ไปจนถึงการชำระเงิน ระบบตรวจสอบสลิปโอนเงิน เป็นต้นเพื่อให้สามารถตรวจสอบได้ ในกรณีที่รายได้ของร้านถึงเกณฑ์เสียภาษี

4. การจัดเตรียมอาหาร

ขอใบอนุญาตการเปิดร้านอาหารเรียบร้อยแล้ว การจัดเตรียมอาหารเป็นเรื่องต่อมาที่เจ้าของกิจการร้านอาหารต้องเริ่มดำเนินการ ไม่ใช่เพิ่งแค่อาหารเท่านั้น เครื่องดื่มต่างๆ ก็ต้องศึกษากฎหมายในการจำหน่ายอย่างละเอียดด้วย อาหารที่ทำในร้านต้องถูกสุขลักษณะที่ทางกระทรวงสุขลักษณะของสถานที่จำหน่ายอาหารกำหนดไว้ ถ้ามั่นใจว่าร้านใช้วัตถุดิบที่ดี ใช้อุปกรณ์ในการประกอบอาหารถูกต้อง ใส่ใจในวิธีการทำอาหารก็ไม่ต้องกังวลกฎหมายการเปิดร้านอาหารข้อนี้เลย

5. การจัดเตรียมบุคลากรในร้านอาหาร

สำหรับกฎหมายการเปิดร้านอาหารข้อนี้จะมีประมวลกฎหมายแรงงานเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย หากที่ร้านมีการขึ้นทะเบียนพาณิชย์แล้วการจ้างงานต้องมีสวัสดิการตามที่กฎหมายแรงงานกำหนดตั้งแต่ ค่าจ้าง วันทำงาน วันหยุด วันลา รวมไปถึงเอกสารการทำงานอื่นๆ ในกรณีที่พนักงานเป็นคนสัญชาติอื่นด้วย และการหาบุคลากรมาประจำในร้านอาหารนอกจากจะต้องมีกฎหมายการเปิดร้านอาหารแล้วและกฎหมายแรงงานแล้ว เจ้าของร้านต้องวางแผนการใช้คนให้สมเหตุสมผลกับงานในร้าน ให้ถูกหน้าที่เพื่อให้การเปิดร้านอาหารเดินหน้าได้อย่างราบรื่นในทุกๆ วัน รวมทั้งมีการส่งบุคลากรเข้าอบรมหลักสูตรสุขาภิบาลอาหารจากกรมอนามัยอย่างถูกต้องด้วย

6. การคุ้มครองผู้บริโภค

กฎหมายการเปิดร้านอาหารมีข้อกำหนดชัดเจนในส่วนของการคุ้มครองผู้บริโภค คือ ต้องไม่ผลิตอาหารที่เป็นอันตรายแก้ผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่ทำจากวัตถุดิบที่ไม่มีคุณภาพ ราคาของเมนูอาหารไม่แพงเกินกว่ากฎหมายกำหนด รวมไปถึงสิทธิอื่นๆ ของผู้บริโภคจะได้รับ การโฆษณาต้องไม่เกินจริง สิทธิที่จะได้รับการชดเชยเมื่อเกิดความเสียหายของผู้บริโภค เป็นต้น

7. ภาษีเงินได้

กฎหมายการเปิดร้านอาหารกำหนดไว้ว่าร้านอาหารที่มีรายได้ต่อปีเกิน 1.8 ล้านบาทต้องขึ้นทะเบียนเพื่อเสียภาษีมูลค่าเพิ่มและอาจจะมีภาษีอื่นๆ ที่ต้องชำระด้วย แน่นอนว่าการเสียภาษีเป็นเรื่องที่จะละเลยไม่ได้ ต้องศึกษาเกี่ยวกับอัตราภาษี ประเภทภาษีที่เกี่ยวกับร้านอาหาร รายการที่สามารถใช้ในการลดหย่อน จะให้ดีต้องวางแผนภาษีให้ดีและต้องเตือนตัวเองเสมอว่าต้องทำการยื่นและชำระทุกปีตามเวลาที่กำหนดจะได้ไม่ต้องเสียค่าปรับในกรณีที่จ่ายภาษีล่าช้า

สรุปบทความ

รู้แล้วใช่ไหมว่าก่อนเปิดกิจการร้านอาหาร เจ้าของร้านอาหารต้องดำเนินการอะไรเป็นลำดับแรก รู้แล้วก็วางแผนได้เลยว่าต้องจดทะเบียนอย่างไร ขอใบอนุญาตอย่างไร ถ้าไม่รู้จะเริ่มตรงไหน ให้ติดต่อที่หน่วยราชการส่วนท้องถิ่นพื้นที่ที่ต้องการเปิดร้านอาหารเพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับกฎหมายการเปิดร้านอาหารที่ถูกต้อง และอย่าลืมใส่ใจในคุณภาพของอาหาร เครื่องดื่ม อุปกรณ์ให้ถูกสุขลักษณะเท่านี้ธุรกิจร้านอาหารของคุณก็สามารถดำเนินไปด้วยดีแล้ว

แนะนำ 10 ไอเดียสินค้าและบริการที่ได้รับความนิยมในตลาดนัด เปิดร้านอะไรจะปังได้รับความสนใจจากลูกค้า ขายของแบบไหนที่ไม่ต้องลงทุนสูงแต่ได้กำไร อยากมีอาชีพเสริมจากงานประจำเริ่มขายอะไรดีที่ตลาดนัด ขายอะไรจะดี ขายอะไรจะปัง มาดูไปพร้อมกันเลย!

10 ประเภทสินค้าขายดีที่ตลาดนัด ลงทุนน้อย กำไรสูง

ตลาดนัดเป็นพื้นที่ที่ค่อนข้างเปิดกว้างสำหรับการขายสินค้า ไม่ว่าจะเป็นของกิน ของใช้ วันนี้เราคัดมา 10 ไอเดีย น่าสนใจลงทุนไม่เยอะ กำไรสูงมาบอกกัน เริ่มจาก

1. ร้านเสื้อผ้าแฟชั่น

ทุกตลาดนัดต้องมีเสื้อผ้าขาย ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหน อะไรที่ฮิตอยู่เดินไปตลาดนัดรับรองจะต้องเจอ เรียกได้ว่าทุกสไตล์การแต่งกายมีให้เลือกซื้อ ลูกค้าจำนวนมากที่ต้องการเลือกซื้อเสื้อผ้าตามสมัยที่ราคาจับต้องได้ ถ้าคุณมีสไตล์ในเลือกเสื้อผ้า มีการตามเทรนด์ที่ทันสมัย การเปิดร้านขายเสื้อผ้าก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียว

2. ร้านขายอุปกรณ์โทรศัพท์

ขายอะไรดีตลาดนัดสมัยนี้ มองๆ ไปที่ต้องเจออีกแน่ๆ รองจากร้านเสื้อผ้าคือร้านขายเคสโทรศัพท์ หรืออุปกรณ์เกี่ยวกับโทรศัพท์ ไม่ว่าจะเป็นหูฟัง ที่ชาร์จแบต หรือบริการติดฟิล์ม เรียกได้ว่าเปิดร้านเหล่านี้มีคนเข้ามาใช้บริการแน่นอน และเคสโทรศัพท์มีต้นทุนค่อนข้างต่ำ ได้กำไรสูงแน่นอน

3. ร้านขายยำ

ยำแซ่บๆ เป็นเมนูยอดฮิตเลยสำหรับใครที่ไปเดินที่ตลาดนัด ยิ่งคุณเป็นคนที่มีฝีมือหรือเป็นแฟนพันธุ์แท้อาหารประเภทยำแล้ว เปิดร้านขายยำได้เลย ลงทุนเกี่ยวกับวัตถุดิบสักหน่อย อุปกรณ์ไม่มากนัก ทำร้านให้ดึงดูดรับรองว่ามีลูกค้าประจำที่ชอบเดินตลาดนัดมาติดแน่นอน

4. ร้านขายอาหาร

ขายของกินอะไรดีที่ตลาดนัด? ร้านอาหารต่างๆ ค่อนข้างที่จะหลากหลาย อยากขายอาหารที่มีคนสนใจต้องลงพื้นที่สำรวจกันก่อน ไม่ควรขายสินค้าที่มีคู่แข่งมาก ขายอาหารที่คนทั่วไปสามารถรับประทานได้ อาหารที่แปลกเตะตาอาจจะขายได้แต่ต้องทำใจเลยว่าอาจจะเป็นกระแสแป๊บเดียว ถ้าอยากขายได้แบบยาวๆ เลือกขายอาหารที่รับประทานง่าย เน้นที่รสชาติอร่อยติดใจดีกว่า

5. ร้านเครื่องดื่ม

ขายเครื่องดื่มที่ตลาดนัดเป็นทางเลือกอันดับต้นๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำดื่มสำเร็จรูปมาแล้วอย่างน้ำเปล่า น้ำอัดลม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่ขายง่าย ลงทุนไม่มาก หรือเครื่องดื่มที่เป็นการแปรรูปเช่น น้ำผลไม้ปั่น หรือเครื่องดื่มประเภทผลไม้สกัดเย็นก็น่าสนใจไม่แพ้สินค้าอื่นๆ เลย

6. ร้านขายของจุกจิก

ขายอะไรดีตลาดนัดลงทุนน้อย หลายคนก็จะคิดถึงของกิฟชอปหรือร้านขายของน่ารักๆ ชิ้นเล็กชิ้นน้อย สินค้าเหล่านี้มีต้นทุนที่ต่ำมาก กำไรที่ขายได้คือเรียกได้เลยว่าเป็นกอบเป็นกำ ยิ่งใครที่รู้แหล่งขายส่งด้วยแล้วจะได้สินค้าที่ต้นทุนต่ำมาก เอามาขาย จัดหน้าร้านดีๆ รับรองขายได้แน่นอน

7. ร้านขายสินค้าแฮนด์เมด

ขายอะไรดีตลาดนัดข้อต่อมาคือร้านค้าแบบนี้มีให้เห็นมาที่ตลาดนัดที่ขายไอเดียหรือออกแนววัยรุ่นๆ สักหน่อย ใครมีฝีมือก็เอาออกมาขายได้ ไม่ว่าจะเป็นงานฝีมือที่ทำสำเร็จแล้วหรือการสั่งจอง ไม่เพียงแค่คนที่เดินตลาดนัดที่เป็นคนไทยที่จะสนใจ ในเมืองใหญ่ๆ นักท่องเที่ยวก็นิยมซื้อกลับติดไม้ติดมือกันไปด้วย

8. ร้านขายกระเป๋า

คิดแล้วคิดอีกว่าจะขายอะไรดีตลาดนัด คิดไม่ออกให้คิดถึงสิ่งใกล้ตัวอย่างกระเป๋า กระเป๋ามีหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่น งานถัก งานผ้า หากเอามารวมกันไว้ในร้านก็จะมีตัวเลือกที่หลากหลาย อยากโดดเด่นก็ต้องมีชื่อร้านและตรีมร้านสักหน่อย ต้องมีลูกค้าสนใจแน่ๆ

9. ร้านขายรองเท้า

ขายอะไรดีตลาดนัด ต้องรองเท้าทั้งแฟชั่น ทั้งทางการ รองเท้าแตะ รองเท้าใส่ในบ้าน เป็นอีกร้านที่จะพบเจอที่ตลาดนัด ไม่เพียงแค่รองเท้ามือ 1 เท่านั้น รองเท้ามือ 2 ก็เป็นที่นิยมเช่นเดียวกัน ใครอยากเปิดร้านรองเท้าที่ตลาดนัดคิดไม่ผิดเลย เตรียมหาแหล่งรองเท้าถูกๆ แต่หลากหลายแล้วเปิดร้านได้เลย

10. ร้านขายของหวาน

ของหวานเป็นของที่หลายคนมองหาเวลาไปเดินที่ตลาดนัด ของหวานที่ขายมีมากมายไม่ว่าจะเป็นเค้ก ขนมไทย ทั้งทำสำเร็จและทำสดๆ ที่หน้าร้านก็ได้รับความสนใจไม่น้อย ใครที่มีฝีมือหน่อยก็จะมีหน้าร้าน ทำกันแบบสดใหม่ รับรองว่าของหวานต้องถูกใจลูกค้าหลายคน

สรุปบทความ

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 10 ไอเดียขายอะไรดีตลาดนัดที่เอามาบอกกัน ไม่ว่าจะขายอะไรสิ่งที่ต้องทำคือ หาแหล่งสินค้า วัตถุดิบที่ราคาถูกคุณภาพดี และต้องวางแผนในการขายด้วย หน้าร้านสวยสะดุดตามีชัยไปกว่าครึ่ง และฝากกันนิดหนึ่งสำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของตลาดนัดแล้วโดนลูกค้าชิ่งค่าของเป็นประจำ เอาสลิปปลอมมาหลอกต้องตรวจสอบสลิปโอนเงินให้ดี อย่าตกเป็นเหยื่อคนนิสัยไม่ดีที่ไม่จ่ายเงินนะ

พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่เปิดขายของเฉพาะหน้าโซเชียลแบบนี้เรียกว่าเป็นธุรกิจ SME หรือเปล่านะ? SME คืออะไร ธุรกิจของคุณจัดอยู่ที่ประเภทไหน อยากเปิดกิจการให้เป็น SME ต้องเตรียมอะไรบ้าง ธุรกิจ SME มีลักษณะอย่างไร ธุรกิจ SME มีอะไรบ้าง วันนี้เรารวมเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับธุรกิจ SME มาบอกกัน

SME คืออะไร

SME คือ ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กที่ประกอบธุรกิจโดยบุคคลธรรมดา กลุ่มคนหรือห้างหุ้นส่วนจำกัด ธุรกิจ SME จะมีสินทรัพย์และพนักงานที่ไม่มากนัก ค่อนข้างมีอิสระในการทำธุรกิจ ใช้เงินลงทุนไม่มาก ส่วนใหญ่จะเป็นทุนของเจ้าของกิจการเอง หรือการกู้ยืมจากสถาบันการเงิน เป็นธุรกิจที่มีแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจสูง เป็นรากฐานของเศรษฐกิจของประเทศ

ประเภทของ SME

ธุรกิจ SME มีอะไรบ้างนะ? สำหรับประเภทของ SME คือ

1. SME การผลิต ทั้งกิจการที่เป็นอุตสาหกรรมหรือเกษตรกรรม เหมืองแร่และการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์
2. SME การค้า การค้าปลีก ค้าส่ง ธุรกิจที่เน้นการขายเป็นส่วนใหญ่
3. SME การบริการ เช่นร้านอาหาร การท่องเที่ยว หรือบริการอื่นๆ

3 สิ่งที่ต้องเตรียมพร้อมก่อนเริ่มธุรกิจ SME

หากคุณอยากที่จะเปิดกิจการ SME เป็นของตัวเอง ต้องศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับธุรกิจที่คุณสนใจเสียก่อน โดนอาจศึกษาจากธุรกิจที่ใกล้เคียงกัน และต้องเตรียม 3 สิ่งนี้ให้พร้อม คือ

1. เงินทุน

เงินทุนเป็นสิ่งที่สำคัญอันดับแรกที่คนอยากทำธุรกิจ SME แม้การทำธุรกิจขนาดย่อมไปถึงขนาดกลางจะใช้เงินลงทุนไม่สูงมากแต่ก็ต้องคำนวณความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับกิจการด้วย นอกจากเงินลงทุนแล้วยังต้องมีเงินทุนที่ใช้หมุนเวียนในระหว่างทำกิจการด้วย

2. วางแผนการตลาด

การวางแผนธุรกิจ SME เริ่มจากรู้จักก่อนว่าธุรกิจ SME มีอะไรบ้าง จัดธุรกิจให้ถูกหมวด วางแผนการโปรโมตให้ถูกช่องทาง เขียนแผนการตลาดให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ในปัจจุบันแผนการตลาดต้องครอบคลุมทั้งด้านออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อขยายฐานลูกค้าสร้างความเป็นที่รู้จักให้มากจะส่งผลดีกับยอดขายมากกว่า

3. ศึกษากฎหมายอย่างละเอียด

กฎหมายเกี่ยวกับธุรกิจ SME คืออะไรบ้าง คือสิ่งที่คุณต้องใส่ใจ แต่ละประเภทธุรกิจก็จะมีกฎหมายในการควบคุมต่างกัน หลายเจ้าของธุรกิจ SME ที่ไม่ได้ศึกษากฎหมายให้ดี จนต้องมาตามแก้ทีหลัง บางธุรกิจอาจจะร้ายแรงถึงขั้นปิดกิจการเลยก็ได้

ข้อดีของการทำธุรกิจ SME

ทำไมธุรกิจ SME ถึงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจประเทศ คำตอบคือมีข้อดีหลายอย่างที่ส่งผลให้มีเจ้าของกิจการ SME มากขึ้นเรื่อยๆ ข้อดีเหล่านั้น คือ

โอกาสทางธุรกิจที่เปิดกว้าง

ข้อดีข้อแรกของธุรกิจ SME คือ สามารถนำผลิตภัณฑ์มาแปรรูปสร้างมูลค่าได้แบบไร้ขีดจำกัด ใช้เงินทุนและบุคลากรที่ไม่มากทำให้ระบบจัดการง่ายมีความยืดหยุ่น เข้าถึงลูกค้าได้ทุกกลุ่ม มีการตลาดที่ค่อนข้างคล่องตัว และปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ใหม่ๆ ได้ตลอดเวลา

มีหน่วยงานที่พร้อมดูแลโดยเฉพาะ

สำหรับธุรกิจ SME นั้นมีภาครัฐให้การสนับสนุนอยู่ เพราะเย่างที่บอกแล้วว่าธุรกิจประเภทนี้เป็นตัวขับเคลื่อนธุรกิจอย่างดี หน่วยงานที่ตั้งมาเฉพาะสำหรับดูแลธุรกิจ SME เช่น SME ทั้งสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) หน่วยงานเพื่อจัดองค์ความรู้ ประสานงานช่วยเหลือ แชร์ข้อมูลสิทธิประโยชน์ และช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคงให้มากที่สุด

ตัวการสำคัญสำหรับขับเคลื่อนธุรกิจ

ธุรกิจ SME เป็นตัวกลางที่เชื่อมธุรกิจทุกขนาดเข้าด้วยกัน เป็นธุรกิจที่ช่วยป้องกันการผูกขาดให้เม็ดเงินเข้าสู่ธุรกิจขนาดใหญ่อย่างเดียว นอกจากนี้ธุรกิจ SME มีความยืดหยุ่นสูงทำให้มีการผลิตสินค้าและบริการใหม่ๆ เข้าสู่ท้องตลาดเป็นตัวเลือกให้ลูกค้ามากยิ่งขึ้น และยังเป็นตัวกระจายรายได้การจ้างงานของคนในประเทศอีกด้วย

ตัวอย่างธุรกิจ SME ที่น่าสนใจสำหรับมือใหม่

สำหรับใครที่อยากทำธุรกิจ SME รู้หรือยังว่าธุรกิจแบบไหนที่เหมาะกับมือใหม่ ลงทุนน้อยๆ ค่อยๆ สะสมประสบการณ์ โดยที่อาจจะเริ่มจากธุรกิจ SME เหล่านี้ คือ

1. ขายของออนไลน์

สินค้าแทบจะทุกอย่างสามารถเปิดขายผ่านโลกออนไลน์ได้ หากคุณอยากเริ่มเป็นเจ้าของธุรกิจ SME เริ่มต้นจากการเปิดหน้าร้านออนไลน์ก่อน แล้วค่อยขยับออกไปเรื่อยๆ โดยให้เริ่มจากสินค้าที่อยู่ในกระแส เก็บความต้องการของลูกค้าเพื่อวางแผนการขายในอนาคต

2. ร้านอาหาร

ธุรกิจ SME ที่เป็นร้านอาหารเป็นอีกธุรกิจที่หลายคนให้ความสนใจ ไม่ว่าจะเปิดเป็นหน้าร้านหรือเปิดเป็นบริการส่งถึงบ้าน สำหรับการลงทุนก็ขึ้นอยู่ว่าเป็นการขายอาหารประเภทไหน สิ่งที่ต้องมีสำหรับการเปิดร้านอาหารคือ ความรู้เกี่ยวกับการปรุงอาหารและมีบุคลากรที่มีฝีมือประกอบกับสร้างหน้าร้านให้น่าสนใจ ดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ

3. คอร์สออนไลน์

ธุรกิจ SME ที่เป็นการขายคอร์สออนไลน์นั้นเป็นการลงทุนจากความรู้และประสบการณ์ของผู้ขายเอง ในปัจจุบันคนขายคอร์สออนไลน์ความรู้ต่างๆ มีมากขึ้น ด้วยไม่ต้องลงทุนมากนัก เน้นให้เป็นที่รู้จักและตรงกลุ่มเป้าหมาย แต่ต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความรู้ที่จะขายเป็นอย่างดี ระดับมืออาชีพเท่านี้ก็สามารถเริ่มธุรกิจ SME ได้แล้ว

4. ตัวแทนจำหน่ายสินค้า

ธุรกิจ SME สำหรับคนที่มีทุนน้อยหรือไม่มีทุนในการลงทุน อาจจะเริ่มจากการนำสินค้าของที่อื่นมาขายในรูปแบบของตัวแทนจำหน่ายก่อน บางสินค้าไม่ต้องสต๊อกของ บางสินค้ามีการลงทุนที่ไม่มาก แต่ถ้าหากอยากเป็นตัวแทนต้องศึกษาเกี่ยวกับสินค้าและบริการนั้นให้ดีเสียก่อนเพื่อป้องกันการถูกหลอกให้ลงทุน

5. สินค้าแฮนด์เมด

สำหรับธุรกิจ SME ที่เป็นสินค้าแฮนด์เมดนั้นเป็นอีกธุรกิจที่สามารถเริ่มได้สำหรับมือใหม่ หากมั่นใจว่ามีความสามารถสร้างสินค้าด้วยตัวเองได้ดีมากพอที่จะขายออกไปเป็นสินค้าได้ การทำธุรกิจ SME รูปแบบนี้ลงทุนเพียงค่าอุปกรณ์และเวลาในการจัดทำ แต่ก็ต้องมีการโปรโมตที่ดีเพื่อให้ลูกค้าเข้ามาสอนใจสินค้าและสั่งซื้อให้มากยิ่งขึ้น

สรุปบทความ

ธุรกิจ SME คือธุรกิจขนาดย่อมไปจนถึงขนาดกลาง ใช้เงินลงทุนและบุคลากรไม่มาก มีความยืดหยุ่นสูงทำให้ตลาดค่อนข้างกว้าง แบ่งเป็นกิจการที่เป็นส่วนของการผลิต, กิจการเกี่ยวกับการค้าและกิจการเกี่ยวกับการบริการ ธุรกิจที่สามารถเริ่มต้นทำธุรกิจ SME เช่น ร้านอาหาร ขายของออนไลน์ ตัวแทนสินค้า เป็นต้น ก่อนเริ่มต้นทำธุรกิจ SME  คือเงินทุน ความรู้เกี่ยวกับธุรกิจ ความรอบรู้เรื่องกฎหมายและการวางแผนการตลาดที่เหมาะสมด้วย

อยากให้ยอดขายปังทะลุเป้าทำยังไงดี บทความนี้จะมาแชร์ไอเดียการกระตุ้นยอดขายให้ธุรกิจของคุณ แต่ละข้อที่เอามาแนะนำกันเป็นสิ่งที่คุณเอาไปทำตามได้ง่ายๆ เลย มาดูกันว่า 10 วิธีการเพิ่มยอดขายให้ร้านที่เราเอามาฝากคุณนั้นมีอะไรบ้าง

10 วิธีการเพิ่มยอดขายให้ร้าน สร้างกำไรได้จริงทุกธุรกิจ

วิธีที่เราเอามาฝากกันวันนี้เป็นวิธีที่สามารถนำไปใช้ได้กับทุกธุรกิจ อาจจะต้องปรับเปลี่ยนให้เข้ากับธุรกิจนั้นๆ ด้วย 10 วิธีเพิ่มยอดขายให้ร้านคือ

1. ทำความเข้าใจพฤติกรรมลูกค้าเก่า

ลูกค้าเก่าใครบอกว่าไม่สามารถกระตุ้นยอดขายได้ ลูกค้าเก่าเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีค่ามาก หากเราสร้างความประทับใจ แน่นอนว่าการบอกต่อก็จะมีมากขึ้นเรื่อยๆ และการทำความเข้าใจกับพฤติกรรมของลูกค้าเก่าก็สามารถมาใช้ปรับปรุงระบบร้าน ปรับปรุงให้ธุรกิจของคุณเป็นที่ต้องการของลูกค้าให้มากขึ้นเรื่อยๆ หรือสามารถเอามาวางแผนการตลาดของธุรกิจในอนาคตได้อีกด้วย

2. มองหาจุดแข็งของสินค้า

ทุกๆ ธุรกิจต้องมีจุดเด่นและการกระตุ้นยอดขายที่ขาดไม่ได้คือการหาจุดเด่นให้กับธุรกิจของคุณ จุดแข็งของคุณที่มีมากกว่าคู่แข่งคืออะไร แล้วนำเสนอด้านนั้นให้ลูกค้าได้เห็น บางธุรกิจจุดเด่นของธุรกิจก็ทำให้ยอดขายพุ่งแตะเพดานที่ตั้งไว้ได้เลย

3. เพิ่มช่องทางการขายสินค้า

แผนการเพิ่มยอดขายให้สินค้าวิธีต่อมาคือการเพิ่มช่องทางในการขายสินค้า บางธุรกิจมีหน้าร้านที่เป็นออฟไลน์แล้วก็ยังมีการสร้างหน้าร้านในรูปแบบออนไลน์อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นช่องทางสื่อโซเชียล เว็บไซต์ หรือที่ตาม Marketplace ต่างๆ ยิ่งมีหน้าร้านหลายสื่อการกระตุ้นยอดขายก็จะเพิ่มมากยิ่งขึ้น แต่ก็ต้องมีระบบที่รองรับอย่างเป็นระเบียบด้วย

4. สร้างความประทับใจให้กับลูกค้า

แผนเพิ่มยอดขายข้อต่อมาคือสร้างความประทับใจให้ลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นด้านคุณภาพสินค้าและบริการ การบริการหลังการขายที่ใส่ใจ มีการติดต่อสอบถามลูกค้าเป็นระยะเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการที่จำเป็นต้องบริการหลังการขาย

5. รีวิวจากลูกค้า

การเพิ่มยอดขายที่สำคัญคือการบอกต่อพร้อมทั้งเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจของคุณ และสิ่งที่เป็นคำตอบของสิ่งเหล่านี้คือรีวิวจากผู้ใช้จริง คุณอาจจะขอความร่วมมือจากลูกค้าเก่าที่ซื้อซ้ำมาแชร์ความประทับใจในธุรกิจของคุณและมีสิ่งตอบแทนจะเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว คือได้รีวิวและยังได้สร้างความประทับใจให้ลูกค้าเก่าด้วย

6. ซื้อโฆษณาออนไลน์

งบประมาณในการทำโฆษณาออนไลน์เป็นเรื่องต้นๆ ในการวางแผนกระตุ้นยอดขาย การทำโฆษณาออนไลน์แต่ละครั้งตามแพลตฟอร์มต่างๆ มีราคาที่แตกต่างกันไป มีการสร้างฐานลูกค้าที่แตกต่างกันไปตามธุรกิจ ต้องเรียนรู้การตั้งงบประมาณในการสร้างโฆษณาตามแพลตฟอร์มอื่นๆ ให้เหมาะสมด้วย

7. ปรับราคา

การปรับราคาให้สูงขึ้นเป็นการกระตุ้นยอดขายที่เห็นเป็นตัวเลขได้ชัดเจนที่สุด แต่ในแต่ละครั้งที่มีการปรับราคาก็ต้องดูองค์ประกอบหลายอย่าง การปรับราคาต้องสมเหตุสมผล ไม่มากเกินไป ไม่บ่อยเกินไปจนลูกค้ารู้สึกว่าไม่เป็นธรรม วิธีการเพิ่มยอดขายให้ร้านด้วยวิธีนี้ต้องเป็นสินค้าและบริการที่ติดตลาดแล้วจริงๆ ถึงจะเพิ่มยอดขายได้แต่ไม่มีผลกระทบต่อจิตใจของลูกค้ามากนัก หรือการปรับราคาด้วยการจัดเป็นแพ็กเกจสุดคุ้มก็เป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน

8. การ Upselling

เทคนิคนี้เป็นเทคนิคที่ได้ผลดีมากในการเพิ่มยอดขายยกตัวอย่างเช่น ลูกค้าซื้อขนม 1 ชิ้นที่ร้านสะดวกซื้อและพนักงานแนะนำว่าหากคุณซื้อเพิ่มอีก 1 ชิ้นจะคุ้มค่ากว่า จนลูกค้าตัดสินใจซื้อเพิ่มหรือแนะนำสินค้าและบริการที่ใกล้เคียงกันให้กับลูกค้าก็เป็นการกระตุ้นยอดขายที่ดีได้เช่นกัน

9. ทำ CRM

CRM ย่อมาจาก Customer Relationship Management คือการสร้างสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า สิ่งที่จะทำให้ธุรกิจของคุณอยู่ได้ยาวนานคือการซื้อซ้ำ การทำ CRM เช่นการสะสมแต้มให้กับลูกค้า บริการเสริมเมื่อใช้บริการครบตามที่อยู่ในเงื่อนไข เป็นต้น

10. แตกไลน์ธุรกิจ

แผนการเพิ่มยอดขายขอสุดท้ายคือการแตกไลน์ธุรกิจ ต่อยอดจากธุรกิจที่ทำอยู่ไปยังธุรกิจที่ใกล้เคียงได้ เช่น คุณเปิดร้านกาแฟ ดังนั้นสิ่งที่นำมาขายควบคู่กันได้คือขนมเค้ก หรือเบเกอรี่ต่างๆ เป็นการเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจได้อีกช่องทางหนึ่ง

ระบบตรวจสอบการทุจริตจาก Thunder Solution ตัวช่วยสำคัญเพิ่มกำไรให้ร้านค้า

ตัวช่วยการเพิ่มยอดขายที่สำคัญอีกข้อคือ การตรวจสอบสลิปโอนเงินจากลูกค้าที่โอนมา อาจจะไม่ได้เป็นการกระตุ้นยอดขายทางตรงแต่เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ เพราะเป็นการรักษาผลประโยชน์ของธุรกิจ ให้ได้รับค่าสินค้าและบริการได้อย่างครบถ้วน

สรุปบทความ

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 10 เทคนิคการเพิ่มยอดขายที่เอามาบอกต่อกันในวันนี้ แต่ละข้อเป็นเรื่องที่ไม่ยากเกินความสามารถของเจ้าของกิจการเลย และสิ่งที่ต้องใส่ใจคือการติดตามข่าวสารความก้าวหน้าในการทำธุรกิจอยู่สม่ำเสมอเพื่อผลักดันธุรกิจของคุณให้อยู่ในกระแสได้ตลอดเวลา

อยากขายของออนไลน์ให้แซงหน้าคู่แข่งต้องทำอย่างไร เทคนิคไหนที่จะช่วยให้คุณได้ยอดขายแบบปังๆ เปิดร้านขายเสื้อผ้าออนไลน์ยังไงให้มีความน่าสนใจแตกต่างจากร้านอื่น แนะนำเทคนิคขายเสื้อผ้าออนไลน์ให้คุณได้เก็บไปใช้ในธุรกิจได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง

7 เทคนิค ขายเสื้อผ้าออนไลน์ให้ยอดขายปัง

ร้านขายเสื้อผ้าออนไลน์มีมากมายในโลกออนไลน์ แต่จะทำอย่างไรให้ยอดขายของคุณปัง! ยอดขายเข้าเป้าทุกเดือน วันนี้เราเลยเอา 7 เทคนิคที่จะช่วยเรื่องนี้มาบอกต่อกัน เริ่มจาก

1. จุดเด่นของร้านตัวเอง

ธุรกิจขายเสื้อผ้าออนไลน์มีร้านมากมายในอินเทอร์เน็ต เพราะฉะนั้นคุณต้องสร้างความโดดเด่นให้กับร้าน ไม่ว่าจะเป็นโทนสี ความพิเศษของการบริการ หรือการตกแต่งหน้าร้านออนไลน์ของคุณให้สะดุดตา เพราะก่อนที่คุณจะได้แสดงความสวยของสินค้า ต้องดึงคนเข้ามาในร้านของคุณให้ได้เสียก่อน ดังนั้นอะไรที่คิดว่าร้านคุณเด่นหรือยังไม่มีจุดเด่นต้องสร้างขึ้นมาก่อน

2. ตั้งราคาให้ดึงดูด

ราคาเป็นสิ่งแรกๆ ที่ลูกค้าจะใช้ในการตัดสินใจ วิธีขายเสื้อผ้าออนไลน์ให้ปังวิธีต่อมาคือ การตั้งราคาให้ดึงดูด โดยที่ราคาเริ่มต้นอาจจะเป็นราคาที่ถูกหน่อยให้ลูกค้าสามารถจับต้องได้ หลายร้านยอมขาดทุนเพื่อดึงให้คนมาติดตามร้านด้วยราคาของที่ถูกก่อนและเป็นวิธีที่ได้ผลมากเลยทีเดียว

3. บริการที่น่าประทับใจ

ธุรกิจขายเสื้อผ้าออนไลน์มีการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง นอกจากหน้าร้านและราคาที่ดึงดูดแล้ว สิ่งต่อมาที่จะสามารถดึงลูกค้าได้คือการบริการที่น่าประทับใจ การใส่ใจลูกค้าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ สำหรับการค้าขาย แนะนำไซซ์เสื้อผ้าที่เหมาะสม หรือมีการพูดคุยให้รายละเอียดลูกค้าอย่างละเอียดเป็นเรื่องที่เจ้าของกิจการต้องมี

4. ไลฟ์สดขายสินค้า

การไลฟ์สดเป็นอีกช่องทางที่ใช้สื่อออนไลน์สร้างการเป็นที่รู้จัก ในการไลฟ์สดแต่ละครั้งต้องมีการเตรียมตัว เตรียมสินค้า สร้างการพูดคุยแนะนำสินค้าให้น่าสนใจ การใช้น้ำเสียงชวนคุยเรื่องสนุกสนานก็เป็นการสร้างเสน่ห์ สร้างความประทับใจต่อลูกค้าที่มีต่อร้านของคุณได้เหมือนกัน

5. โปรโมชันพิเศษของร้าน

โปรโมชันของธุรกิจขายเสื้อผ้าออนไลน์ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวกับราคาเสมอไป อาจจะเป็นสินค้าแถม หรือบริการอื่นที่น่าสนใจก็ได้เหมือนกัน และอีกโปรโมชันที่สร้างความสนใจกับลูกค้าไม่น้อยคือ โปรโมชันส่งฟรี หรือโปรโมชันในแต่ละเดือน หรืออาจจะเป็นกิจกรรมพิเศษให้ลูกค้าได้ร่วมสนุกก็น่าสนใจไม่แพ้กัน

6. ตามเทรนด์ให้ทันเสมอ

ขายเสื้อผ้าออนไลน์สิ่งที่คุณจะหยุดไม่ได้เลยคือการตามเทรนด์แฟชั่น ว่าช่วงนี้เสื้อผ้าแบบไหนเป็นที่สนใจของตลาด นอกจากตามเทรนด์แฟชั่นแล้วยังต้องตามเทรนด์เกี่ยวกับการอัปเดตแพลตฟอร์มออนไลน์ควบคู่ไปด้วยจะช่วยให้การทำธุรกิจเสื้อผ้าออนไลน์ของคุณมีทิศทางที่ดีขึ้นด้วย

7. วางระบบร้านให้พร้อม

ธุรกิจขายเสื้อผ้าออนไลน์เจ้าใหญ่ๆ ดังๆ มักมีระบบการจัดการร้านค้าที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการสั่งซื้อ การจัดส่ง และบริการหลังการขายที่ดี ระบบเหล่านี้สามารถวางด้วยตัวเองได้ ให้เข้าใจง่ายลูกค้าเข้าถึงไม่ยาก หรือถ้าเป็นร้านที่ไลฟ์สดขายเสื้อผ้าจำนวนเยอะๆ มีคนสนใจมากๆ ก็จะมีระบบร้านค้าที่ค่อนข้างเป็นระบบผิดพลาดน้อย บางร้านมีโปรแกรมเฉพาะในการสั่งซื้อเลยก็มี

แต่จะดีขึ้นไปอีกขั้น หากร้านค้ามีระบบตรวจสอบธุรกรรมทางการเงิน โดยเฉพาะสลิปโอนเงินปลอม โดยเฉพาะร้านค้าที่มีช่องทางการชำระสินค้าผ่านทางการโอนเงินเพียงอย่างเดียว เพราะต่อให้ร้านค้าขายดีแค่ไหนแต่ต้องมาตกม้าตายเพราะโดนสลิปโอนเงินปลอมก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องดีแน่นอน

สรุปบทความ

และนี่คือวิธีขายเสื้อผ้าออนไลน์ยังไงให้ปังที่เอามาฝากกัน ตอนนี้ร้านของคุณมีข้อไหนแล้วบ้าง แล้วมีอะไรที่ยังไม่ได้ทำบ้าง ลองเอาไปปรับใช้กับธุรกิจคุณดูนะ เพื่อยอดขายที่เข้าเป้าและธุรกิจขายเสื้อผ้าออนไลน์ที่จะโลดแล่นไปอีกนาน และสำหรับร้านค้าออนไลน์สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือการยืนยันการชำระเงินจากลูกค้า การตรวจสอบสลิปโอนเงินเป็นเรื่องที่ต้องทำ เพื่อรักษาผลประโยชน์ให้ธุรกิจของคุณ

ทุกๆ ธุรกิจต้องมี Line OA ! อีกช่องทางการกระจายความน่าสนใจของสินค้าและบริการที่เจ้าของกิจการต้องรู้ Line Official Account คืออะไร ประโยชน์ของมันคืออะไร ทำไมขึ้นชื่อว่าเป็นช่องทางการติดต่อลูกค้าที่เข้าถึงและสะดวกสบายช่องทางหนึ่งเลย วิธีใช้ Line OA เป็นอย่างไร ราคาที่ต้องจ่ายแพงไหม เหมาะกับธุรกิจประเภทไหนบ้าง ไปหาคำตอบพร้อมๆ กันเลย!

Line Official Account คืออะไร

Line Official Account หรือ Line OA คือ บัญชี Line ที่มีฟังก์ชันเหมาะสมกับการใช้งานในธุรกิจ ร้านค้าไม่ว่าออนไลน์หรือออฟไลน์ ช่องทาง Line OA นับเป็นแพลตฟอร์มที่สำคัญ เพราะนอกจากจะเป็นการสื่อสารระหว่างร้านกับลูกค้าแล้ว ยังสามารถใช้ในการโปรโมตกิจกรรมต่างๆ ของร้าน และในปัจจุบันยังสามารถใช้ฟีเจอร์ของ Line OA ในการดูแลหลังการขายอื่นๆ อีกด้วย

ประเภทของ Line Official Account

ประเภทของ Line OA คือเรื่องต่อมาที่คุณต้องรู้เพื่อนำไปใช้ให้เหมาะสมกับธุรกิจ โดยที่ Line Official Account จะแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ

1. บัญชีทั่วไป (สัญลักษณ์สีเทา) สามารถใช้ฟีเจอร์พื้นฐานเช่น ส่งรูปภาพ ข้อความ ไม่เสียค่าใช้จ่าย
2. บัญชีรับรอง (สัญลักษณ์สีฟ้า) เสียค่าใช้จ่าย มีฟีเจอร์ที่กว้างขึ้น มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
3. บัญชีพรีเมียม (สัญลักษณ์สีเขียว) เสียค่าใช้จ่าย ใช้ฟีเจอร์ได้มากกว่าประเภทอื่น และยังสามารถค้นหาปรากฏบนหน้า Search Engine ได้อีกด้วย

ประโยชน์ของ Line Official Account

สำหรับประโยชน์ของ Line Official Account มีดังนี้

• เป็นช่องทางการสื่อสารระหว่างคุณกับลูกค้าที่สะดวก
• เป็นการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่น่าเชื่อถือและเป็นที่รู้จัก 
• สามารถสร้างลูกค้า ทำให้เกิดยอดขายได้
• เป็นช่องทางการรักษาลูกค้าเก่าได้เป็นอย่างดี
• สามารถเก็บฐานลูกค้าเพื่อใช้ในการวางแผนการตลาดได้ในอนาคต (สำหรับ Line OA แบบพรีเมียม)

Line Official Account เหมาะกับใคร

Line OA คือแพลตฟอร์มที่เหมาะสมกับหลายธุรกิจ และยังมีฟีเจอร์ต่างๆ ที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเข้าถึงลูกค้าได้สะดวกมากขึ้น โดยแต่ละธุรกิจสามารถปรับใช้ฟีเจอร์ให้เหมาะสมได้ เช่น

1. ธุรกิจบริการ

Line OA คือ ช่องทางให้คุณดูแลลูกค้าได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าลูกค้าต้องการบริการอะไรก็สามารถแจ้งตรงได้เลย สามารถใช้ Rich Menu ให้แสดงผลเพื่อลิงก์ไปที่หน้าเว็บ, แจ้งข่าวโปรโมชัน, ทำนัดในการเข้ารับบริการ ตลอดจนข้อเสนอแนะอื่นๆ เพื่อให้ธุรกิจนั้นๆ ได้นำไปปรับปรุงแก้ไขด้วย

2. ธุรกิจร้านอาหาร และคาเฟ่

สำหรับร้านอาหาร Line OA คือเมนูออนไลน์ที่คุณสามารถตั้งฟีเจอร์ให้สามารถกดเลือกเมนูได้ สั่งจองโต๊ะได้ สะสมแต้มได้ ดูโปรโมชันได้ โดยที่ทางร้านสามารถครีเอต Rich Menu ให้เหมาะสม การใช้งานของ Line OA นั้นไม่ค่อยซับซ้อน ค่อนข้างสะดวกสบายสำหรับการแจ้งข่าวต่างๆ ของทางร้านด้วย

3. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

ธุรกิจอสังหาสามารถใช้ Line OA ในการกระจายข้อความได้ทีเดียวพร้อมๆ กัน ไม่ต้องส่งทีละคน ยกตัวอย่างเช่น นิติบุคคลของคอนโดมิเนียมที่ต้องการประกาศข่าวสารให้ผู้เข้าพักได้รับรู้ สามารถตอบโต้กันผ่านช่องแชต และยังสามารถเก็บรายละเอียดของลูกบ้านได้อย่างครบถ้วนด้วย

4. ธุรกิจท่องเที่ยว

ธุรกิจท่องเที่ยวการใช้ Line OA คือทุกขั้นตอนของการสื่อสาร ตั้งแต่แจ้งข่าวสาร ให้ข้อมูล การจองทัวร์ บริการหลังการขาย รวมทั้งคอยตอบปัญหาต่างๆ ที่ลูกค้าต้องเจอเมื่อเดินทางด้วย นอกจากนี้ยังสามารถครีเอตเมนูเพื่อรับสิทธิพิเศษต่างๆ ได้อีกด้วย

5. สถาบันการศึกษา

Line OA คืออีกช่องทางของการกระจายข่าวสารสู่ผู้ปกครองนักเรียน ความพิเศษของ Line Official Account คือ สามารถกรองได้ว่าต้องการส่งไปยังสมาชิกที่มีช่วงอายุเท่าไหร่ เพศไหน เพื่อให้โรงเรียนกระจายข่าวสารได้อย่างถูกกลุ่ม และยังสามารถใส่รายละเอียดสำคัญพื้นฐานเช่น ประวัติโรงเรียน กิจกรรมต่างๆ ประกาศสำคัญๆ เพื่อกระจายข่าวสารไปยังสมาชิกที่เป็นทั้งศิษย์เก่าและศิษย์ใหม่ด้วย

วิธีติดตั้ง Line Official Account

1. เข้าไปที่เว็บไซต์ https://lineforbusiness.com/th/service/line-oa-features
2. กดไปที่ “สร้างบัญชีทั่วไป” หรือ “สร้างบัญชีรับรอง” เลือกตามรูปแบบที่ต้องการ
3. หากยังไม่มีบัญชีผู้ใช้ ให้เลือก ”สร้างบัญชี” เพื่อสร้างบัญชีผู้ใช้งานของคุณก่อน เลือก “ลงทะเบียนด้วยบัญชี LINE” หรือ “ลงทะเบียนด้วยอีเมล” และกรอกรายละเอียด
4. หากมีบัญชีผู้ใช้แล้ว สามารถเข้าสู่ระบบได้ทันที โดยเลือกปุ่มสีเขียว “เข้าสู่ระบบด้วยบัญชี LINE” เพื่อล็อกอินด้วยบัญชี LINE ส่วนตัว หรือปุ่มสีเทา “เข้าสู่ระบบด้วยบัญชีธุรกิจ”  เพื่อล็อกอินด้วยอีเมลกลางทางธุรกิจ

 วิธีสมัครใช้งาน Line OA ผ่านสมาร์ตโฟน

1. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน LINE Official Account ลงบนสมาร์ตโฟนของคุณ
2. คลิก “เข้าสู่ระบบด้วยบัญชี LINE” เพื่อล็อกอินด้วยบัญชี LINE ส่วนตัว หรือปุ่มสีเทา “เข้าสู่ระบบด้วยบัญชีธุรกิจ”  เพื่อล็อกอินด้วยอีเมลกลางทางธุรกิจ หากไม่มีบัญชีให้ทำการสมัครบัญชีเพื่อใช้งาน
3. คลิก อนุมัติ และกรอกรายละเอียดในช่องที่มีจุดสีเขียวให้ครบถ้วน ตรวจสอบความถูกต้องให้เรียบร้อย และเลือก ตกลง
4. เช็กความถูกต้องของข้อมูลอีกครั้ง ก่อนเลือก เสร็จสิ้น ก็จะได้บัญชี LINE Official Account

สรุปบทความ

Line OA คือช่องทางการติดต่อระหว่างคุณกับลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย สามารถให้ข้อมูลได้อย่างครบถ้วน ทำให้การกระจายข่าวสารได้ทั่วถึงและตรงจุดมากขึ้น Line OA ค่าใช้จ่ายจะเป็นไปตามที่ไลน์กำหนด หรือตามที่คุณเลือกใช้ฟีเจอร์ว่ามากน้อยเพียงใด แต่การตรวจสอบสลิปโอนเงินยังไม่มีฟีเจอร์หลักในการตรวจสอบ หากอยากที่จะตรวจสอบอาจจะต้องหาเครื่องมืออื่นมาช่วย เพื่อให้ธุรกิจดำเนินได้อย่างสะดวกและราบรื่นมากที่สุด เป็นการใช้เทคโนโลยีให้มีประโยชน์เอื้อต่อธุรกิจของคุณอย่างที่สุด

ธุรกิจค้าปลีกคืออะไร ขายอะไรถึงเรียกว่าเป็นธุรกิจค้าปลีก ร้านค้าปลีกมีอะไรบ้าง เปิดตำราธุรกิจกันสักหน่อยเรียนรู้เรื่องค้าปลีกให้เข้าใจก่อนเปิดกิจการ อยากเปิดร้านค้าปลีกต้องรู้จักก่อนว่าธุรกิจค้าปลีกมีประเภทไหนบ้าง กระบวนการทำงานของธุรกิจค้าปลีกที่คุณต้องรู้คืออะไร มาหาคำตอบไปพร้อมกันได้เลย!

ธุรกิจค้าปลีกคืออะไร

ธุรกิจค้าปลีก คือ ธุรกิจเน้นการค้าขายสินค้าหรือนำเสนอบริการให้กับผู้บริโภคโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบร้านค้าเล็ก ๆ ที่เรียกว่าร้านโชห่วยไปจนถึงห้างสรรพสินค้า ธุรกิจค้าปลีกพบเห็นได้ทั่วไปขึ้นอยู่ที่เป็นรูปแบบไหน ส่วนใหญ่ไม่ได้เน้นรูปแบบร้านที่สวยหรูอะไรมากแต่จะมีสินค้าให้เลือกซื้อเยอะ หลากหลายรูปแบบ ร้านขายของชำที่อยู่ในแหล่งชุมชนก็เรียกว่าธุรกิจค้าปลีกเช่นเดียวกัน

กระบวนการทำงานของธุรกิจค้าปลีกเป็นอย่างไร

สำหรับกระบวนการการทำงานของร้านค้าปลีก เริ่มต้นโดยผู้ค้าปลีกจะทำหน้าที่ในการจัดหาสินค้าจากแหล่งค้าส่งและนำมาขายให้กับผู้บริโภค โดยที่ต้องเดาทิศทางความต้องการของผู้บริโภคว่าต้องการสินค้าประเภทไหนบ้าง ในกระบวนการการค้าปลีกประกอบด้วย ผู้ผลิต, ผู้ค้าส่ง, ผู้ค้าปลีกและผู้บริโภค

ประเภทของธุรกิจค้าปลีก

สำหรับประเภทของธุรกิจค้าปลีกมีหลายรูปแบบ ไล่ได้ตั้งแต่กิจการเล็ก ๆ ไปจนถึงห้างสรรพสินค้าใหญ่โต นอกจากการขายสินค้าแล้ว ในปัจจุบันยังมีความสะดวกสบายอื่นๆ ในร้านค้าปลีกอีกด้วย ร้านค้าปลีกสามารถแบ่งเป็นประเภทหลักๆ ได้ดังนี้

1. ร้านค้าปลีกขนาดเล็ก

ธุรกิจค้าปลีกที่เราคุ้นเคยมากที่สุดคือร้านค้าปลีกขนาดเล็ก ร้านค้าปลีกประเภทนี้กระจายอยู่ตามแหล่งชุมชน หมู่บ้าน สินค้าที่วางขายที่ร้านค้าปลีกประเภทนี้มักเป็นสินค้าที่ใช้ในครัวเรือน อาหาร เครื่องดื่มที่คนนิยมซื้อมาดื่มหรือรับประทาน ร้านค้าปลีกประเภทนี้ถึงมีให้เห็นน้อยลงแต่ก็ยังมีให้เห็นอยู่ตามหมู่บ้านหรือแหล่งชุมชน ส่วนใหญ่ร้านประเภทนี้จะเป็นธุรกิจในครัวเรือน ไม่มีแบบแผนตายตัว

2. ร้านค้าปลีกเฉพาะอย่าง

ร้านค้าปลีกเฉพาะอย่างเป็นธุรกิจค้าปลีกที่เจาะเป็นกลุ่มเฉพาะสินค้าที่ขายในร้านมักจะเป็นหมวดหมู่เดียวกันหรือในหมวดที่ใกล้เคียงกัน เช่น ร้านเครื่องเขียน ร้านขายอุปกรณ์ต่างๆ ร้านค้าปลีกเหล่านี้จะเริ่มมีการตกแต่งร้านในดึงดูดกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น 

3. ร้านสะดวกซื้อ

ธุรกิจค้าปลีกประเภทนี้คือร้านขายของชำที่เปิด 24 ชั่วโมง เน้นการขายสิ่งของที่มีความจำเป็นในการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เครื่องดื่ม ยารักษาโรค เครื่องสำอาง หรือสิ่งของอื่นๆ ร้านจะค่อนข้างมีแปลนที่เรียบร้อย เหมาะกับการเข้าไปซื้อสินค้า และร้านประเภทนี้จะมีการตรวจเช็กสินค้าให้มีคุณภาพอยู่เสมออีกด้วย

4. มินิมาร์ท

มินิมาร์ทเป็นร้านสะดวกซื้อขนาดย่อส่วน ธุรกิจค้าปลีกประเภทมินิมาร์ทนี้จะมีอยู่ตามปั๊มน้ำมัน ตึกพาณิชย์ ตึกสำนักงานต่างๆ  สินค้าและบริการเหมือนกับร้านสะดวกซื้อแต่อาจจะมีสินค้าที่มีความหลากหลายน้อยกว่า เน้นการขายเกี่ยวกับอาหารเครื่องดื่มวะส่วนใหญ่

5. ซูเปอร์มาร์เก็ต

ซูเปอร์มาร์เก็ตเป็นธุรกิจค้าปลีกที่เน้นการขายอาหารและของอุปโภคบริโภคที่สำคัญเป็นหลัก มีทั้งของสด ผลไม้ต่างๆ ให้เลือก มักจะเห็นซูเปอร์มาร์เก็ตเป็นส่วนหนึ่งของห้างสรรพสินค้า แต่ในปัจจุบันซูเปอร์มาร์เก็ตก็เริ่มเปิดตัวแยกออกมาเดี่ยวๆ บ้างแล้ว

6. ห้างสรรพสินค้า

ธุรกิจค้าปลีกครบวงจรที่รวมเอาร้านค้าปลีกหลายๆ ร้านมาไว้ด้วยกัน ห้างสรรพสินค้าเป็นร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ที่ค่อนข้างครบวงจรไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร เครื่องดื่ม ร้านขายยา ร้านหนังสือ โดยที่แต่ละสินค้าจะมีการแบ่งหมวดหมู่ได้อย่างชัดเจนและมีหน้าร้าน ธุรกิจค้าปลีกในห้างสรรพสินค้านั่นมักจะมีการตกแต่งร้านที่โดดเด่นมากยิ่งขึ้น และมีความหรูหราของสินค้าปลีกที่ขายมากขึ้นด้วย

7. ไฮเปอร์มาร์เก็ต

ไฮเปอร์มาเก็ตคือธุรกิจค้าปลีกที่เอาซูเปอร์มาร์เก็ตมารวมเข้ากับห้างสรรพสินค้า เป็นร้านค้าปลีกครบวงจรมีสินค้าแทบจะทุกชนิด ตั้งแต่ของกิน ของใช้ เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า แต่ไฮเปอร์มาร์เก็ตจะเน้นขายสินค้าที่มีราคาย่อมเยาลงมา เน้นขายง่าย คุณภาพปานกลาง มีโปรโมชันบ่อยครั้งมากกว่าร้านค้าปลีกประเภทอื่นๆ การลงทุนสูงแต่การเติบโตก็รวดเร็วให้ผลตอบแทนสูงเหมือนกัน

8. ชอปปิงมอลล์

ธุรกิจขายปลีกประเภทนี้เรียกอีกชื่อว่าศูนย์การค้า เป็นศูนย์รวมสินค้าและบริการธุรกิจค้าปลีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร หรือร้านขายปลีกเฉพาะหมวดอื่นๆ เป็นแหล่งค้าปลีกครบวงจร มีทั้งรูปแบบในร่มและกลางแจ้ง มีลานกิจกรรมเพื่อใช้จัดงาน เน้นบรรยากาศที่สนุกสนานคึกคัก

9. ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่เน้นขายสินค้าเฉพาะกลุ่ม

ธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่นี้เป็นร้านที่ขายของเป็นหมวดหมู่ เป็นร้านค้าปลีกที่รวมเอาสินค้าประเภทนั้นๆ รวมกันเช่น ร้านขายอุปกรณ์แต่งบ้าน ที่รวมเอาอุปกรณ์การแต่งบ้านตั้งแต่ชิ้นเล็กชิ้นใหญ่รวมกันเอาไว้ เป็นธุรกิจค้าปลีกที่สามารถมองจากภายนอกได้เลยว่าขายสินค้าเกี่ยวกับอะไรเป็นหลัก

สรุปบทความ

ธุรกิจค้าปลีกคือตัวกลางในการส่งขายสินค้าด้วยกระบวนการจากผู้ผลิต, ผู้ค้าส่ง, ผู้ค้าปลีกมายังผู้บริโภค ธุรกิจค้าปลีกมีอยู่หลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นเล็กหรือใหญ่ แต่ละประเภทมีสินค้าและบริการวางจำหน่ายคล้ายกันแต่แตกต่างกันที่ขนาดของพื้นที่ รูปลักษณ์ และความหลากหลายของสินค้า แต่ไม่ว่าจะมีธุรกิจค้าปลีกแบบไหน สิ่งที่เจ้าของกิจการต้องให้ความสำคัญคือการตรวจสอบสลิปโอนเงิน เพื่อตรวจสอบลูกค้าที่ใช้การโอนเงินเป็นช่องทางการชำระสินค้าและบริการนั้นๆ เพื่อความมั่นใจว่าลูกค้ามีการชำระเงินมาแล้วครบถ้วนถูกต้องนั่นเอง

ต้องบอกเลยว่า ในยุคนี้สลิปปลอมระบาดหนักมากจริงๆ โดยเฉพาะในกลุ่มของ พ่อค้า แม่ค้า ร้านอาหาร ร้านทอง หรือเจ้าของธุรกิจต่างๆ ซ้ำร้าย นอกจากตัวสลิปปลอมที่ปลอมจนเนียนแล้ว ยังมีการนำสลิปเก่ากลับมาใช้ซ้ำ เราจะทำอย่างไรดีละ จึงจะไม่ถูกหลอก โดยเฉพาะเหล่าพ่อค้าแม่ค้าที่รับโอนเงินบ่อยๆ ต้องรู้! วิธีเช็คสลิปปลอมที่ทำได้ทันที แถมยังรู้ได้อีกด้วว่าเป็นรูปแบบสลิปปลอม แบบไหน วันนี้เราจะมาดูกัน

สลิปปลอม คืออะไร

รูปสลิปโอนเงินปลอม

สลิปปลอม คือ หลักการฐานการโอนเงินปลอม ซึ่งเป็นสลิปโอนเงินที่ถูกกลุ่มมิจฉาชีพทำขึ้นมา โดยมีการกรอกข้อมูลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ชื่อผู้รับ/ผู้ส่ง วันเดือน ปี เวลา จำนวนเงิน และ QR Code ของธนาคารต่าง ๆ ลงไปเอง โดยไม่มีการโอนเงินจริงหรือโอนเงินแต่จำนวนไม่ตรงกับยอดเงินที่อยู่บนสลิปโอนเงิน ซึ่งการทำสลิปปลอมขึ้นมาก็เพื่อไว้ใช้ในการหลอกลวงร้านค้าที่สามารถโอนเงินในการชำระสินค้าได้ โดยพฤติกรรมของมิจฉาชีพจะแสร้งทำเป็นว่าได้ทำการโอนเงินให้ผ่านทางช่องทางชำระเงินและอาศัยช่วงชุลมุนรีบหนีไป หรือในบางครั้งก็อาจแนบหลักฐานชำระเงินปลอมมาทางข้อความหากผู้ค้าเผลอหรือไม่มีเวลาในการตรวจสอบมิจฉาชีพเหล่านี้ก็จะลอยตัวไปได้ง่าย ๆ รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ด้วย ดังนั้น หากร้านค้าไม่ได้ตรวจสอบการโอนเงินก่อนส่งสินค้า อาจจะทำให้ถูกหลอกได้

รูปแบบสลิปปลอม มีอะไรบ้าง

รูปสลิปปลอม

1. สลิปปลอม

สลิปปลอมนี้อาจใช้เทคนิคการตัดต่อทำขึ้นมา หรือทำจากระบบซอฟต์แวร์เฉพาะก็ได้ ซึ่งในปัจจุบันสามารถทำสลิปปลอมได้ออกมาเหมือนสลิปจริงมาก ๆ จนบางครั้งเพียงแค่มองด้วยตาเปล่าก็อาจจะไม่รู้ว่าเป็นสลิปปลอม

2. สลิปซ้ำ

สลิปซ้ำ หรือสลิปที่นำมาใช้ซ้ำ ใช้สลิปเก่า ที่เคยแนบในบิลใดมาก่อนและมีการอัปโหลดรูปสลิปซ้ำอันเก่าที่เคยนำมาใช้ให้กับทางร้านค้า ซึ่งถือว่าเป็นกลโกงยอดฮิตอีกอย่างที่เหล่ามิจฉาชีพนามาใช้กัน หากไม่ได้มีการตรวจสอบให้ดีก็อาจสูญเสียเงินไปได้ และเนื่องจากตัวสลิปเป็นสลิปจริ การนำไปตรวจสอบกับแอปธนาคารจะไม่สามารถทราบได้ ว่าสลิปนี้เคยถูกใช้งานไปแล้ว

3. สลิปยอดเงินไม่ตรง/ชื่อผู้รับไม่ถูกต้อง

ก็เป็นสลิปโอนเงินปลอมอีกรูปแบบหนึ่ง ที่เหล่ามิจฉาชีพชอบใช้กัน โดยอาศัยจังหวะที่ร้านกำลังยุ่งๆ แกล้งโอนเงินไปไม่ครบแล้วรอจังหวะที่แจ้งเตือนดัง ก็รับหนีออกไปทันที 

วิธีตรวจสลิปปลอม

ปัจจุบันการตรวจสอบสลิปปลอมนั้น สามารถทำได้หลายวิธีด้วยกัน โดยสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม และความสะดวกสบายของคุณ ซึ่งวิธีตรวจสลิปปลอมดูยังไง เราสรุปมาให้แล้ว ดังนี้

1. ตรวจสอบ สลิปปลอม ด้วยการสังเกตลักษณะสลิปโอนเงิน

วิธีเช็คสลิปปลอมขั้นพื้นฐาน ด้วยการสังเกตลักษณะของสลิปโอนเงิน จากตัวหนังสือที่มีอยู่บนสลิปการโอนเงิน โดยสลิปจริงมีลักษณะ ดังนี้

• ความคมชัดและความชัดเจนของสลิปโอนเงิน
• ลายน้ำหรือรูปแบบภาพพื้นหลังของสลิปโอนเงิน
• การจัดวางองค์ประกอบรายละเอียดจะอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องตามรูปแบบสลิปของธนาคารนั้น ๆ
• ตัวหนังสือที่อยู่บนสลิปมีความสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นความหนา-บางเท่ากันทั้งหมด ถ้าเป็นสลิปปลอมตัวหนังสือมีขนาดหรือความหนา-บางไม่เท่ากัน

2. ตรวจสอบสลิปด้วยการสแกน QR Code บนสลิปโอนเงิน

สลิปโอนเงินที่เป็นรูปแบบ E-Slip ของทุกธนาคารจะมี QR Code เพื่อให้ร้านสามารถตรวจสอบสลิปโอนเงินว่าเป็นสลิปของจริงหรือสลิปปลอม ซึ่ง QR Code จะมีข้อมูลรายละเอียดที่เกี่ยวกับการโอนเงิน เช่น ชื่อผู้โอนเงิน บัญชีปลายทาง จำนวนเงิน และรายละเอียดการโอนต่าง ๆ ซึ่งการเช็คสลิปออนไลน์จะมีขั้นตอนการตรวจสอบ QR Code ดังนี้

เมื่อลูกค้าส่งสลิปให้บันทึกรูปเก็บไว้ในโทรศัพท์

เปิดแอปพลิเคชันของแต่ละธนาคาร กดเข้าไปที่เมนูสแกน QR code

เลือกสแกนจากรูปภาพ โดยเลือกรูปสลิปโอนเงินที่ได้บันทึกเก็บเอาไว้

ถ้าเป็นสลิปของจริง คุณจะเห็นรายละเอียดของโอนเงินขึ้นให้ตรวจสอบ แต่ถ้าหากเป็นสลิปที่ถูกปลอมแปลงขึ้นมาล่ะก็ ระบบอาจจะขึ้นโชว์ข้อความว่า “ขออภัย รูปแบบรหัส QR ไม่ถูกต้อง”

ทั้งนี้ การตรวจสอบสลิปโอนเงินให้ทำทันทีที่ได้รับสลิป เนื่องจาก QR code ที่อยู่บนสลิปของแต่ละธนาคารจะมีอายุจำกัด ตั้งแต่ 7 – 60 วัน

3. ตรวจสอบยอดเงินเข้าจากบัญชี

การตรวจสอบยอดเงินก็เป็นอีกหนึ่งวิธีเช็คสลิปปลอม โดยการสมัครบริการระบบแจ้งเตือนยอดเงินโอนเข้าออกของธนาคารโดยตรง ช่วยให้เช็คการโอนเงินได้แบบเรียลไทม์ จึงไม่ต้องกังวลว่าจะถูกหลอกเป็นสลิปปลอม โดยวิธีนี้อาจจะเหมาะสำหรับร้านค้าที่ทำงานคนเดียว

4. ตรวจสอบสลิปโอนเงินด้วยระบบตรวจสลิปปลอม

การตรวจสอบสลิปโอนเงินด้วยตัวเอง บางครั้งอาจจะเกิดข้อผิดพลาดบ้าง มีความยุ่งยากและใช้เวลามากเกินไป โดยเฉพาะร้านค้าที่ขายดีมียอดการโอนเงินเข้ามาจำนวนมาก ถ้าจะให้มานั่งตรวจเช็ก หรือจะสแกน QR Code บนสลิปโอนเงินทีละสลิปคงต้องใช้เวลานาน ดังนั้น ร้านค้าสามารถเลือกใช้ระบบจัดการร้านค้า ที่มีฟังก์ชันช่วยตรวจสอบสลิปและยอดเงินเข้าอัตโนมัติได้ทันที ช่วยประหยัดเวลาในการตรวจสอบ และลดปัญหาเช็คสลิปโอนเงินไม่ทันอีกด้วย

ปัญหาร้านค้าตกเป็นเหยื่อสลิปปลอม

1.กลโกงลูกค้ากินปิ้งย่าง

สำหรับเจ้าของธุรกิจที่ไม่ได้อยู่หน้าร้านต้องดูข่าวนี้เลย กับลูกค้าตัวแสบแกล้งโอนสลิปปลอมเนียนๆ แล้วยื่นสลิปให้พนักงานถ่ายรูปน่าตาเฉย ก่อนรีบฉวยโอกาสออกจากร้านไปแบบอิ่ม ๆ พนักงานร้านเกิดเอ๊ะใจ จึงโทรบอกเจ้าของร้าน แต่กว่าร้านจะรู้ตัวว่าเป็นสลิปปลอมก็ผ่านข้ามวันไปแล้ว เสร็จโจรนิ่มๆ เลยทีนี้

กลโกงลูกค้ากินปิ้งย่าง สั่งเนื้อนอกราคาแพงเรียกเช็กบิล กลับโอนสลิปปลอม

2. ลูกค้าปลอมเงินหลอกซื้อของ

มิจฉาชีพรายนี้มาในรูปแบบลูกค้าขาประจำร้านขายเนื้อหมู มาซื้อทุกครั้งจ่ายแบบโอนแล้วก็ส่งสลิปโอนเงินให้ร้านเสมอ เนียนแบบไม่มีอะไรน่าสงสัย ซึ่งในสลิปก็ปรากฎผู้รับเงินเป็นชื่อร้านปกติ แต่ร้านหารู้ไม่ว่านั่นมัน “สลิปปลอม” กว่าจะรู้ก็ผ่านไปแล้ว 5 เดือน ตรวจสอบย้อนหลังพบว่าใช้สลิปปลอมมาใช้ซื้อของ รวมกว่า 208 รายการ ทำให้ร้านต้องเสียหายรวมกว่า 1,615,857 บาท

ปลอมสลิปโอนเงิน หลอกซื้อของตลอด 5 เดือน กว่าร้านจะรู้ตัว สูญ 1.6 ล้านบาท

3. เจ้าของโรงงานช็อคโกแลต

ใครว่าลูกค้าขาประจำไว้ใจได้เสมอ ต้องดูข่าวนี้ กับลูกค้าขาประจำโรงงานขนมตัวแสบ มาบ่อยจนเจ้าของร้านเชื่อใจ ไม่ได้เช็คสลิปว่าผิดปกติไหม จนมาแปลกใจจับโป๊ะได้เมื่อลูกค้าวางแผนส่งสลิปปลอมให้ แล้วแจ้งยกเลิกออเดอร์ ด้วยความวางใจทางร้านจึงโอนเงินคืนให้

แต่เมื่อไปเช็คดูอีกทีก็ทำให้รู้ตัวว่าตนเองได้โดนกลโกงสลิปปลอมหลอกเข้าแล้ว จึงได้ตรวจสลิปย้อนหลังจึงพบว่าลูกค้ารายนี้สั่งสินค้าแล้วส่งใบสลิปการโอนเงินปลอมมาให้เป็นเวลากว่า 2 ปี รวมเป็นเงินประมาณ 500,000 บาทเลยทีเดียว

เจ้าของโรงงานขนมช็อก ลูกค้าประจำหลอกส่งสลิปปลอม นาน 2 ปี เสียเงินกว่าครึ่งล้าน

เมื่อเจอสลิปโอนเงินปลอม จะต้องทำอย่างไร

1.ติดต่อแจ้งความ

เมื่อพบหลักฐานว่าถูกทำ “สลิปปลอม” ต้องแจ้งความภายใน 3 เดือนนับตั้งแต่ทราบได้ว่าได้รับสลิปปลอมหรือทราบตัวผู้กระทำผิดเมื่อบุคค้าทั่วไปหรือร้านค้าตกเป็นเหยื่อของพวกมิจฉาพชีพสลิปโอนเงินปลอม คุณสามารถติดต่อแจ้งความเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายได้ที่ “กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง” หรือติดต่อผ่านช่องทางออนไลน์เฟซบุ๊กได้ที่ facebook.com/CIBTHAILAND หรือผ่านเว็บไซต์ www.cib.go.th หรือ โทร 0-2504-4900 โดยดำเนินการดังนี้ 

1.รวบรวมหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับมิจฉาชีพเราต้องมีหลักฐานมากพอ โดยเฉพาะข้อมูลในฝั่งของมิจฉาชีพ เพราะหากไม่มีข้อมูลอะไรเลย ก็อาจจะตามสืบ หรือเอาผิดได้ยากเช่นกัน

2. เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

3. ส่งเรื่องฟ้องร้อง พิจารณาโทษ

2.ใช้วิธีป้องกันด้วยบอทเช็คสลิปโอนเงิน Thunder Solution

ระบบตรวจสอบสลิปโอนเงินปลอมผ่านไลน์

 หากกันไว้ดีกว่าแก้ ย่อมดีกว่า เพราะหากโดนแล้วต้องไปแจ้งความก็ไม่รู้ว่าจะดำเนินการให้เร็วขนาดนั้นไหน เสียทั้งเงินเสียทั้งเวลา หากพ่อค้าแม่ค้าเลือกใช้ตัวช่วยดีๆอย่าง บอทเช็คสลิป Thunder Solution ช่วยเช็คสลิปโอนเงินให้ทุกครั้งที่มีการรับโอนเข้ามา ก็รู้ผลได้ทันที 

เลิกได้เลิก เพียงแค่ลูกค้ายื่นสลิปให้ดูแล้วพยักหนน้ารับรู้เพียงอย่างเดียว เพราะ Thunder Solution มีระบบ Verify Slip ตรวจสลิปอัตโนมัติและตรวจสอบสลิปปลอมให้ใช้ ถ่ายปุ๊บ รู้ผลทันที ไม่ต้องรอ

• แจ้งผลการตรวจสอบทันที จากสลิปที่ถ่ายแล้วส่งเข้ามาในกลุ่มที่มีบอท Thunder อยู่
• ตรวจสอบแม่นยำจาก QR Code ปลอมเนียนแค่ไหนก็ไม่รอด
• ตรวจสลิปย้อนหลังได้ ไม่พลาดแม้แต่ออเดอร์เดียว
•  แจ้งผล Verify Slip ทันทีผ่านห้องไลน์ได้ ทั้งไลน์ของร้านค้าและไลน์กลุ่ม
• ตรวจสลิปปลอมได้ทุกรูปแบบ พร้อมแสดงผลการตรวจพร้อมบอกสถานะของสลิปโอนเงินนั้นๆ
• ตรวจสอบสลิปได้ทุกธนาคาร
• ตรวจสอบสลิปปลอม สลิปใช้ซ้ำ

การตรวจสอบสถานะ สลิป พร้อมแจ้งรายละเอียดได้ บอกทุกสถานะสลิปโอนที่ส่งเข้ามาในหน้าแชทไลน์ พร้อมระบุสาเหตุการตรวจเช็คสลิปโอนเงินไม่ผ่าน เช่น สลิปใช้ซ้ำ, ยอดโอนต่ำกว่ายอดสุทธิ, ไม่สามารถตรวจสอบสลิปได้ เพื่อให้ร้านค้าแจ้งกลับลูกค้าได้ทันทีเมื่อสลิปโอนเงินมีปัญหา โดยรูปแบบการตรวจสถานะสลิปของ Thunder มีดังนี้

1. ผลการตรวจสลิปปลอม

เมื่อมีการส่งสลิปนั้นๆไปที่ห้องแชท บอทเช็คสลิป ก็จะทำการตรวจสอบ พร้อมกับขึ้นแจ้งเตือนสีแดง พร้อมระบุข้อความว่า สลิปโนเงินไม่ถูกต้อง

ผลตรวจสลิปปลอม

2. ผลการตรวจสลิปยอดเงินต่ำกว่ากำหนด

เช่น หากตั้งค่ายอดโอนเงินไว้ขั้นต่ำที่ 5 บาท แต่เมื่อส่งสลิปเข้าไปตรวจสอบ แจ้งเตือจะขึ้นสีเหลืองพร้อมกับแสดงข้อความ “จำนวนยอดเงินต่ำกว่ากำหนด”

ผลตรวจสลิปปลอม

3. ผลการตรวจสลิปซ้ำ

เมื่อสลิปถูกส่งเข้ามาในห้องแชท ตัวบอทเช็คสลิปของ Thunder จะทำการตรวจสอบและแจ้งเตือนขึ้นสีแดง พร้อมกับแสดงข้อความว่า “สลิปนี้ถูกใช้งานไปแล้ว”

ผลตรวจสลิปซ้ำ

4. ผลการตรวจสลิปชื่อผู้ไม่รับไม่ถูกต้อง ตามที่เราตั้งค่าไว้

เมื่อมีการส่งสลิปเข้าไปแล้วบอทตรวจสอบได้ว่าสลิปนี้ชื่อไม่ตรงกับบัญชีผู้รับที่เราทำการตั้งค่าไว้จะมีการแจ้งเตือนว่าชื่อผู้รับไม่ถูกต้องพร้อมกับ ไฮไลท์ชื่อผู้รับที่โอนไป

ผลตรวจสลิปสลิปชื่อผู้ไม่รับไม่ถูกต้อง

5. สลิปไม่ชัดเจน ไม่มีQR Code

5. ผลการตรวจสลิปที่เวลาไม่เป็นปัจจุบัน

ในกรณีนี้ อาจมีลูกค้าอาจส่งสลิปเข้ามาช้า บอทก็สามารตรวจสอบได้ว่า สลิปโอนเงินรายการนี้ ทำรายการไปเมื่อไหร ก็จะสามารถทำให้เรานั้นตรวจสอบยอดนั้นได้ง่านขึ้น เช่น เมื่อ 7 นาทีที่แล้ว หรือ 3 วันที่แล้ว เป็นต้น

ผลตรวจสลิปที่เวลาไม่เป็นปัจจุบัน

6. ผลการตรวจสลิปที่ถูกต้องครบถ้วน

 บอทเช็คสลิปจะขึ้นเป็นสีเขียว พร้อมรายละเอียดต่างๆ เช่นชื่อผู้รับ ธนาคารที่เราตั้งค่าไว้เพื่อรับยอด QR Code อย่างแม่นยำ 100% เพื่อเช็คสลิปให้มีประสิทธิภาพมากขิ่งขึ้น

ผลตรวจสลิปโอนเงิน

รู้แบบนี้แล้ว ใครที่ขายของออนไลน์อย่าลืมเช็คสลิปโอนเงินทุกครั้งที่ได้รับการคอนเฟิร์มว่ามีการโอนเงินแล้ว สำหรับร้านค้าขายดีมีออเดอร์จำนวนมาก และขายหลายช่องทาง คุณก็สามารถใช้บริการ Thunder Solution ซึ่งมีระบบ Verify Slip ตรวจสลิปอัตโนมัติสามารถตรวจยอดโอนอัตโนมัติทันที

เจ้าของร้านค้า เจ้าของกิจการ อยากสบายต้องรู้จักสิ่งนี้ กับ บอทเช็คสลิปโอนเงินผ่านไลน์ ทำได้ง่ายๆเพียงแค่มี Line OA ร้านค้า เปลี่ยนจากห้องแชทธรรมดาให้ตรวจทั้งสลิปโอนเงินได้และรับออร์เดอร์ลูกค้าได้ในแชทเดียว โดยเจ้าบอทเช็คสลิปโอนเงินนี้ จะสามารถใช้งานได้อย่างไร มีวิธีติดตั้งแบบไหน วันนี้ธันเดอร์จะพาไปดูค่ะ  โดยเราจะพาไปทำความรู้จัก ตั้งแต่ ตัว Line OA บอทเช็คสลิป วิธีการติดตั้งบอทเช็คสลิป ฟังก์ชั่นการใช้งาน เพื่อให้ผู้ที่สนใจตัวบอทเช็คสลิปโอนเงินผ่านไลน์ ไปใช้ในธุรกิจของท่าน

Line Official Account ( Line OA) คืออะไร

LINE OA (LINE Official Account) คือ ผลิตภัณฑ์อีกชิ้นของ LINE โดยทำหน้าที่เป็น สื่อกลางหรือคือ บัญชีทางการ สำหรับธุรกิจและร้านค้าไม่ว่าจะเป็นออนไลน์หรือออฟไลน์ในการสื่อสาร กับผู้ติดตามหรือลูกค้าของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นข้อความธรรมดาแบบถาม-ตอบระหว่างลูกค้า หรือข้อความโฆษณาโปรโมทเกี่ยวกับสินค้าและบริการ แถมยังมีฟีเจอร์หลายรูปแบบที่ร้านค้าสามารถ เลือกใช้งานเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีต่อลูกค้าหรือว่าที่ลูกค้าของธุรกิจได้ ไม่ว่าจะเป็น การ Broadcast ข้อความ การสร้างข้อความตอบรับอัตโนมัติ หรือแม้แต่การทำคูปองสะสมแต้ม ฯลฯ

อีกข้อสำคัญของ LINE OA ก็คือด้วยความที่เป็น Product ของ LINE ทำให้แอปพลิเคชันตัวนี้ นั้นสามารถเชื่อมต่อกับ LINE ได้โดยตรง เวลาที่ร้านค้าส่งข้อความหรือข่าวสารอัปเดตให้ผู้ติดตาม ก็จะแจ้งเตือนบนหน้าแชท LINE ของพวกเขาได้โดยตรงเหมือนการส่งข้อความคุยกันปกติ ลูกค้าสะดวกสบาย ไม่ต้องเปิดเข้าออกหลายแอป สามารถเสิร์ฟคอนเทนต์ตรงถึงหน้าแชทของลูกค้า ได้อย่างรวดเร็วทันใจทุกที่ทุกเวลา

ประโยชน์ของ Line OA ร้านค้า

LINE Official Account นั้นเหมาะกับธุรกิจทุกประเภท เพราะการติดต่อสื่อสารกับลูกค้านั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากในยุคปัจจุบัน ยิ่งคุณมีผู้ติดตามในบัญชี LINE Official Account เยอะมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสในการสร้างกำไรในธุรกิจของคุณมากขึ้นเท่านั้น

• การสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ (Brand Awareness)

LINE Official Account เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยเสริมสร้าง Brand Awareness ช่วยทำให้แบรนด์ถูกค้นพบและกลายเป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนที่ลูกค้ายังไม่รู้จักแบรนด์ของคุณ พวกเขาอาจจะเริ่มจากการกด Add friend เข้ามาเพื่อสอบถามข้อมูลผ่าน LINE OA ของคุณ ซึ่งในส่วนนี้คุณสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกที่มากกว่าบนเว็บไซต์หลัก เพื่อให้พวกเขาได้รู้จักแบรนด์ของคุณมากขึ้น สร้างประสบการณ์ที่ดี ทำให้พวกเขารู้สึกสนใจและอยากกลายมาเป็นลูกค้าแบรนด์ของคุณในท้ายที่สุด

• การสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า (Engagement)

ข้อดีของ Line Office Account คือ ทำให้การสื่อสารทางธุรกิจระหว่างแบรนด์และลูกค้านั้นง่ายและสะดวกมากขึ้น เพราะ LINE OA เป็นช่องทางสำหรับธุรกิจเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างลูกค้าและแบรนด์ ผ่านเครื่องมือและฟีเจอร์พิเศษที่ออกแบบมาเพื่อความสะดวก และยังสามารถเชื่อมต่อกับ Line CRM เพื่อเก็บข้อมูลจากลูกค้า นำมาข้อมูลที่ได้นั้นมาสร้างข้อความที่มีความหมาย เพื่อทำให้พวกเขารู้สึกพิเศษและประทับใจมากยิ่งขึ้น

• การสร้างลูกค้า (Conversion)

LINE Official Account คือวิธีที่ยอดเยี่ยมในการสร้างลูกค้า เพราะสำหรับธุรกิจแล้วนั้น การสร้างลูกค้า หรือ Conversion นั้นคือ สิ่งที่สำคัญที่สุดในการประสบความสำเร็จ ทำให้เกิดยอดขาย และธุรกิจสามารถไปต่อได้ ลูกค้าที่ได้จาก LINE OA ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าที่ตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าจากแบรนด์ของคุณ หรือลูกค้าที่ทำตามเป้าหมายที่แบรนด์ของคุณได้กำหนดเอาไว้ ทั้งหมดนี้คือการสร้าง Conversion ทั้งนั้น

• การรักษาฐานลูกค้าเก่า (Retention)

ต่อมา เมื่อเราได้ลูกค้ามาแล้วจากการเกิด Conversion แน่นอนว่า เราจำเป็นจะต้องรักษาพวกเขาเอาไว้ แล้วจะต้องทำอย่างไรถึงจะเปลี่ยนให้ลูกค้า (Customer) กลายมาเป็น ลูกค้าภักดี (Loyalty Customer) ของแบรนด์ได้ล่ะ?

ฟีเจอร์ของ LINE OA มีหลากหลายรูปแบบ ที่จะช่วยให้คุณเปลี่ยนพวกเขาให้กลายเป็นลูกค้าภักดีได้ ตัวอย่างที่เป็นที่นิยมอย่างมาก คือการสะสมแต้ม เพื่อให้ลูกค้าสามารถเก็บคะแนนสะสมจากทุกครั้งที่ซื้อสินค้าผ่าน Line Office Account และเมื่อสะสมได้ครบตามจำนวนที่กำหนดก็จะสามารถนำมาแลกของรางวัลสุดพิเศษจากทางแบรนด์ได้ ซึ่งจะเหมือนเป็นการกระตุ้นให้พวกเขารู้สึกสนใจ อยากได้ของรางวัลล่อตาล่อใจ และเลือกกลับมาซื้อสินค้าจากแบรนด์ๆบ่อย

ทำความรู้จักกับ บอทเช็กสลิปโอนเงินผ่าน Line OA

บอทเช็กสลิปโอนเงิน คือ ระบบตรวจสลิปโอนเงินปลอมผ่านไลน์ ที่ทำได้ง่ายๆเพียงติดตั้งบอทเข้ากับ Line OA ของร้านค้า หรือผ่าน Line Official Account ก็ได้ โดยตัวโปรแกรมซึ่งก็คือบอทเช็คสลิปที่จะทำให้ห้องไลน์ธรรมดา สามารถตรวจสลิปโอนเงินอัตโนมัติได้ เมื่อมีการส่งรูปสลิปโอนเงินเข้าไปในห้องแชท จากนั้นตัวโปรแกรมจะดึงข้อมูลจาก QR code บนสลิปโอนเงินไปเช็คกับ API Official ของธนาคาร จากนั้นจะแจ้งผลกลับมายังห้องแชททันที ช่วยให้เราสามารถตรวจสอบสลิปโอนเงินได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ฟีเจอร์การใช้งานของ บอทเช็คสลิป ผ่าน Line OA

1.ตรวจสอบสลิปโอนเงินผ่านไลน์

เมื่อมีการส่งรูปสลิปโอนเงินเข้าไปในห้องแชท จากนั้นตัวโปรแกรมจะดึงข้อมูลจาก QR code บนสลิปโอนเงินไปเช็คกับ API Official ของธนาคาร จากนั้นจะแจ้งผลกลับมายังห้องแชททันที 

โดยการทำงานระบบเช็คสลิปผ่าน line official ของท่าน โดยติดตั้งลง line official ของลูกค้าได้เลย หรือนำไปตรวจสอบสำหรับไลน์กลุ่มได้อีกด้วยโดยรูปแบบการตรวจสอบจะแสดงทั้งสีและข้อความดีงต่อไปนี้

1. สลิปยอดเงินไม่ตรง

 หรือสลิปปลอม เมื่อมีการส่งสลิปนั้นๆไปที่ห้องแชท บอทเช็คสลิปก็จะทำการตรวจสอบ พร้อมกับขึ้นแจ้งเตือนสีแดง พร้อมระบุข้อความว่า สลิปโนเงินไม่ถูกต้อง

2. สลิปยอดเงินต่ำกว่ากำหนด

เช่น หากตั้งค่ายอดโอนเงินไว้ขั้นต่ำที่ 5 บาท แต่เมื่อส่งสลิปเข้าไปตรวจสอบ แจ้งเตือจะขึ้นสีเหลืองพร้อมกับแสดงข้อความ “จำนวนยอดเงินต่ำกว่ากำหนด”

3. สลิปซ้ำ

เมื่อสลิปถูกส่งเข้ามาในห้องแชท ตัวบอทเช็คสลิปของ Thunder จะทำการตรวจสอบและแจ้งเตือนขึ้นสีแดง พร้อมกับแสดงข้อความว่า “สลิปนี้ถูกใช้งานไปแล้ว”

4. สลิปชื่อผู้ไม่รับไม่ถูกต้อง ตามที่เราตั้งค่าไว้

เมื่อมีการส่งสลิปเข้าไปแล้วบอทตรวจสอบได้ว่าสลิปนี้ชื่อไม่ตรงกับบัญชีผู้รับที่เราทำการตั้งค่าไว้จะมีการแจ้งเตือนว่าชื่อผู้รับไม่ถูกต้องพร้อมกับ ไฮไลท์ชื่อผู้รับที่โอนไป

5. สลิปที่เวลาไม่เป็นปัจจุบัน

ในกรณีนี้ อาจมีลูกค้าอาจส่งสลิปเข้ามาช้า บอทก็สามารตรวจสอบได้ว่า สลิปโอนเงินรายการนี้ ทำรายการไปเมื่อไหร ก็จะสามารถทำให้เรานั้นตรวจสอบยอดนั้นได้ง่านขึ้น เช่น เมื่อ 7 นาทีที่แล้ว หรือ 3 วันที่แล้ว เป็นต้น

6. สลิปที่ถูกต้องครบถ้วน

 บอทเช็คสลิปจะขึ้นเป็นสีเขียว พร้อมรายละเอียดต่างๆ เช่นชื่อผู้รับ ธนาคารที่เราตั้งค่าไว้เพื่อรับยอด QR Code อย่างแม่นยำ 100% เพื่อเช็คสลิปให้มีประสิทธิภาพมากขิ่งขึ้น

2. การใช้งานผ่าน Line Group

นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อไลน์กลุ่มจากฟังชั่นของ Thunder Solution ที่นอกจากแสกนผ่าน Line OAได้แล้วบอทยังสามารถติดตั้งได้ผ่านไลน์กลุ่มสำหรับลูกค้าที่ใช้งานผ่านไลน์กลุ่มเป็นหลัก โดยทุกๆการตรวจสลิป บอทจะแจ้งเตือนไปยังไลน์กลุ่มหลังบ้านโดยจะแจ้งเตือนไปยังแอดมินและเจ้าของกิจการไว้คอยดูยอดได้ตลอดเวลา

รูปเช็คสลิปและตอบกลับ

3. การใช้งานผ่าน Line Notify

ฟัง์ชันไลนืโนติฟาย เมื่อมีการส่งสลิปเข้าห้องแชทไลน์  Line OA หรือไลน์กลุ่ม เมื่อบอททำการเช็คเสร็จจะทำการส่งไปยังกลุ่มหลังบ้านที่ต้องการให้แอดมินหรือเจ้าของกิจกกรมที่ต้องการดูยอดธุรกรรมต่างๆ ตัวอย่างเช่น ผลการรับยอดที่ถูกต้อง กรณีสลิปซ้ำหรือสลิปที่ไม่พบ QR Code บอทจะทำการส่งรูปสลิปนั้นให้แอดมินทำการตรวจสอบ ทำให้สะดวกรวดเร็จและเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบ

4. Dashboard ระบบจัดการหลังบ้าน

ในส่วนนี้จะแสดงข้อมูลต่างๆ เช่น ยอดเงินทั้งหมดของสลิปที่ทำการสแกน รวมทั้งดูยอดรายวัน รายเดือน เหมาะสำหรับเจ้าของกิจการที่ไม่ได้จรวจเช็คในไลน์กลุ่ม

รูปแดชบอร์ด

5. ระบบสาขา

ระบบสาขาคือระบบที่ช่วยให้เพิ่มสาขาตามจำนวนธุรกิจเดิมที่ทำได้เพียง 1 สาขา แต่ตอนนี้สาขามาถเพิ่มได้สูงสุด 10 สาขา  โดยจะให้แพ็กเกจของเราสามารถเชื่อมต่อไลน์ออฟฟิเชียลและไลน์กลุ่มได้มากกว่า 1 ห้อง จากเดิมที่เชื่อมต่อได้ แค่ 1 ห้อง โดยแต่ละสาขาจะสรุปยอดแยกกัน และยังเก็บสลิปแยกสาขาได้อีกด้วยช่วยใหเราสามารถสรุปยอดขายได้ง่ายขึ้น รวมทั้งยังมีสรุปนอดรวมสาขาให้อีกด้วย 

วิธีติดตั้ง บอทเช็คสลิปเข้ากับ Line OA

วิธีการใช้บริการเช็คสลิปโอนเงินผ่าน Line Oa นั้นทำได้โดยการติดตั้งบอทเช็คสลิปโอนเงินเข้าไป ผ่านตัว Line Messaging API แถมยังรวมทุกบัญชีร้านค้ามาไว้ในที่เดียวได้อีกด้วย ทำได้ทั้งตรวจสลิป รวมยอด และทำบัญชีได้ ครบจบที่เดียวเลย

หรือดูวิธีการติดตั้งได้ที่ : คู่มือการใช้งาน Thunder Solution

สรุป

ในกรณีที่เรามีออเดอร์ ยอดโอนเข้ามาพร้อมกันเยอะ ๆ ลำพังจะให้มานั่งสแกนสลิปโอนเงินทีละสลิปก็ค่อนข้างที่จะใช้เวลาพอสมควร พ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์ ที่ขายของทั้งบน Facebook, LINE OA, Instagram หรือช่องทางอื่น ๆ ลองมองหาตัวช่วยอย่างระบบจัดการร้านค้า ที่มีฟังก์ชันช่วยตรวจสลิปโอนเงินให้แบบอัตโนมัติโดยที่ไม่ต้องเข้าแอปฯ ธนาคารสแกน QR Cord บนสลิปโอนเงินทีละใบ ตรงนี้ก็จะช่วยให้ร้านค้าประหยัดเวลาตรวจสอบสลิปโอนเงิน ลดปัญหาเช็คสลิปโอนเงินไม่ทัน เจอสลิปปลอมไปได้เยอะค่ะ