สำหรับผู้ที่กำลังวางแผนทำธุรกิจร้านค้าออนไลน์ เรื่องของการวางระบบการขายให้มีประสิทธิภาพเป็นเรื่องที่มีความสำคัญที่คนทำธุรกิจไม่ควรมองข้าม เพราะหากมีขั้นตอนการซื้อและการขายที่มีระบบและถูกวางแผนมาอย่างดีจะช่วยตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันได้เป็นอย่างมาก ในวันนี้เราได้รวบรวมทุกเรื่องเกี่ยวกับระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ เพื่อเป็นตัวช่วยสำคัญให้ร้านค้าออนไลน์มือใหม่สามารถบริหารธุรกิจได้ง่ายยิ่งขึ้น

ทำความรู้จักระบบจัดการร้านค้าออนไลน์

ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ คือโปรแกรมที่ช่วยในการจัดการร้านค้าออนไลน์ให้สามารถขายสินค้าได้อย่างเป็นระบบ และเพิ่มความสะดวกสบายให้กับเจ้าของธุรกิจ โดยเฉพาะผู้ที่กำลังให้ความสนใจขายของออนไลน์และสร้างแบรนด์เป็นของตัวเอง การเลือกใช้ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้ระบบหลังบ้านมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจัดเก็บสินค้า แพ็กสินค้า ติดตามสถานะ และการรวบรวมข้อมูลการขาย

ความสามารถของระบบจัดการร้านค้าออนไลน์

อย่างที่ทราบกันดีว่าระบบจัดการร้านค้าออนไลน์เป็นเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อรองรับธุรกิจร้านค้าออนไลน์ ช่วยลดปัญหามากมายที่ผู้ประกอบการต้องเจอ รวมทั้งยังช่วยเปลี่ยนระบบหลังบ้านให้สามารถทำงานได้อย่างเป็นระบบและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ยังมาพร้อมความสามารถอีกมากมายที่ผู้สนใจทำธุรกิจออนไลน์ต้องรู้ ดังนี้

1. จัดการออเดอร์และจัดการคลังสินค้า

สำหรับผู้ที่ทำธุรกิจร้านค้าออนไลน์ สิ่งสำคัญที่ต้องมีคือ ระบบจัดการออเดอร์ และระบบจัดการคลังสินค้า ซึ่งทั้ง 2 ระบบนี้เปรียบเสมือนหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจออนไลน์ การมีระบบจัดการร้านค้าออนไลน์จะช่วยเรื่องของการจัดการออเดอร์ จัดเก็บสินค้า และดูผลงานอื่น ๆ ในคลังสินค้าให้สามารถเชื่อมข้อมูลที่ครอบคลุม เพื่อให้มีระบบที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว

2. รายงานข้อมูล

การทำธุรกิจร้านค้าออนไลน์ เรื่องของการรายงานข้อมูลต่าง ๆ เป็นที่ต้องให้ความสำคัญ ซึ่งระบบจัดการร้านค้าออนไลน์จะช่วยให้เรื่องเหล่านี้สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการรายงานยอดขาย จำนวนสินค้าในคลังสินค้า ระบบการจัดส่ง โดยจะรายงานออกมาเพื่อให้ผู้ประกอบการนำข้อมูลไปวิเคราะห์และพัฒนาธุรกิจต่อได้

3. วิเคราะห์ธุรกิจ

ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์จะสามารถเข้าถึงข้อมูลทุกอย่างของร้านค้าออนไลน์ได้ จึงทำให้เป็นโปรแกรมสำคัญที่จะสามารถช่วยวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำไปต่อยอด ปรับใช้ และพัฒนาร้านค้าออนไลน์ให้ดียิ่งขึ้น

4. ดูออเดอร์อัตโนมัติ

การที่สามารถดูออเดอร์อัตโนมัติได้จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับพ่อค้าและแม่ค้าออนไลน์ได้เป็นอย่างมาก เพราะระบบจัดการร้านค้าออนไลน์จะดูดข้อมูลออเดอร์ของลูกค้าเข้าสู่ระบบ เพียงแค่เปิดโปรแกรมก็จะเห็นรายละเอียดของออเดอร์อย่างครบถ้วน

5. พิมพ์ใบเสร็จ

การพิมพ์ใบเสร็จเป็นหนึ่งในหน้าที่สำคัญของร้านค้าออนไลน์ เพราะในใบเสร็จแต่ละใบจะประกอบไปด้วยข้อมูลสำคัญหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ แล้วแปะลงบนกล่องพัสดุ หากเลือกใช้ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ก็จะช่วยทำให้เรื่องเหล่านี้ง่ายขึ้นและประหยัดเวลาได้เป็นอย่างมาก

6. โปรแกรมบัญชี

การใช้ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์จะมีโปรแกรมบัญชีที่คอยจัดการทุกยอดการสั่งซื้อสินค้า โดยที่ข้อมูลจะถูกส่งไปยังโปรแกรมบัญชีตลอดเวลา ซึ่งข้อมูลทั้งหมดเหล่านี้ยังสามารถนำไปวิเคราะห์เพื่อพัฒนาและปรับปรุงการขายในอนาคตได้อีกด้วย

7. API เชื่อมต่อระบบ

สำหรับการเชื่อมต่อระบบ API ซึ่งสามารถเชื่อมเข้ากับระบบอื่น ๆ ได้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น WMS, ERP หรือ Fulfillment ซึ่งเป็นระบบที่จะช่วยประหยัดเวลาให้กับพ่อค้าและแม่ค้าได้เป็นอย่างมาก รวมทั้งประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย เพื่อช่วยให้การจัดการสินค้าเป็นไปย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

8. ระบบตรวจสอบสลิปปลอม

ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ยังมาพร้อมระบบตรวจสลิปโอนเงินปลอม เพราะการตรวจสอบสลิปด้วยตัวเองอาจทำให้พ่อค้าและแม่ค้าเสียเวลาและหลุดรอดสายตาไปได้ แต่การตรวจสลิปปลอมผ่านไลน์จะช่วยลดขั้นตอนที่ยุ่งยากไปได้เยอะเลยทีเดียว เพราะใช้เวลาเพียงแค่ 1 วินาทีก็สามารถรู้ได้ว่าสลิปที่ได้มาเป็นของจริงหรือไม่ รวมทั้งยังให้ความแม่นยำสูงถึง 100% ด้วยระบบ AI ที่สามารถตรวจสลิปโอนเงินได้หลากหลาย ซึ่งจะช่วยสร้างความอุ่นใจและหมดปัญหาเรื่องของสลิปปลอมไปได้เลย

ข้อดีของการมีระบบจัดการร้านค้าออนไลน์

• ลดเวลาการทำงาน การเลือกใช้ระบบการจัดการแบบออนไลน์เข้ามาช่วยจะทำให้ลดเวลาการทำงานและช่วยให้ผู้ประกอบการมีเวลาว่างเพิ่มมากขึ้น
• งานเป็นระเบียบ การขายของออนไลน์เป็นเรื่องที่มีความยุ่งยาก แต่การมีระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ข้ามาช่วยจะทำให้ระบบหลังบ้านมีความเป็นระบบและมีระเบียบมากขึ้น
• เพิ่มยอดขาย ระบบจัดการร้านค้านออนไลน์เป็นระบบที่สามารถช่วยเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างดี เพื่อให้ผู้ประกอบการโฟกัสกับการขายและปล่อยเรื่องระบบหลังบ้านให้ระบบออนไลน์คอยดูแล
• ติดตามและควบคุมงานได้สะดวก การขายของออนไลน์มีความจำเป็นจะต้องนำระบบขายของออนไลน์เข้ามาช่วย เพื่อความสะดวกสบายในการติดตามและควบคุมงานได้เอง

สรุประบบจัดการร้านค้าออนไลน์

สำหรับระบบจัดการร้านค้าออนไลน์นับว่าเป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับการทำธุรกิจร้านค้าออนไลน์ เพราะจะเข้ามามีส่วนช่วยทำให้ระบบการขายสินค้าหลังบ้านของร้านค้าออนไลน์เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งจะครอบคลุมการทำงานตั้งแต่การซื้อสินค้าไปจนถึงขั้นตอนการชำระสินค้าได้อย่างรวดเร็ว และถ้าหากนึกถึงเรื่องของการตรวจสลิปโอนเงินปลอม Thunder Solution พร้อมดูแลเรื่องการตรวจสอบสลิปปลอมให้ธุรกิจคุณได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

หลายธุรกิจที่กำลังดำเนินการไปอย่างสวยงาม แต่ในวันหนึ่งกลับพบว่าธุรกิจขายสินค้าได้ดีแต่ทำไมถึงยังได้กำไรไม่มากพอเท่าที่คิดไว้ หรือการผลิตสินค้าออกมาแต่ต้องเจอกับภาวะขาดทุนแบบไม่รู้ตัว ปัญหาเหล่านี้อาจเป็นเพราะผู้ประกอบการไม่รู้ต้นทุนที่แท้จริงของสินค้าที่ขาย ในวันนี้เราจะมาแชร์วิธีคิดต้นทุนในการขายสินค้าอย่างไรให้เกิดความคุ้มค่า ได้กำไร และไม่ขาดทุน

ต้นทุนขายคืออะไร

ก่อนอื่นที่จะพาทุกคนไปดูวิธีการคิดต้นทุนการขายสินค้า อยากพาผู้อ่านมาทำความรู้จักกับต้นทุนขายสินค้ากันก่อน เพราะต้นทุนขายเปรียบเสมือนบันไดขั้นแรกในการเริ่มต้นทำธุรกิจ เพราะต้นทุนขายจะทำให้สามารถกำหนดราคาขายของสินค้านั้นได้ โดยที่จะต้องมีราคาส่วนต่างเป็นกำไร

ต้นทุนขาย คือจำนวนเงินที่นำไปใช้จ่ายในการซื้อสินค้า หรือวัตถุดิบ ซึ่งเป็นต้นทุนที่เกิดขึ้นจากการผลิตสินค้าและกระบวนการที่ทำให้สินค้าพร้อมขายหรือใช้ในภายหลัง โดยจะเริ่มตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ การผลิต การทดสอบ การจัดเก็บ และการขนส่ง เป็นต้น

ดังนั้น เรื่องของต้นทุนขาย กำไร และราคาขายถือว่าเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้อย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะผู้ที่กำลังสนใจเริ่มต้นทำธุรกิจแล้ว หากอยู่ในฐานะเจ้าของกิจการก็ควรที่จะทำความรู้จักและศึกษาการคำนวณต้นทุนให้เป็น เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าและได้กำไรสูง

ทำความเข้าใจวิธีคิดต้นทุนขายสินค้าฉบับมือใหม่

หลังจากที่ได้รู้ความหมายของต้นทุนขายกันไปแล้ว ก่อนที่จะเริ่มตั้งราคาขายผู้ประกอบการจะต้องคำนวณต้นทุนการผลิตก่อน ซึ่งการคิดคำนวณต้นทุนขายจะประกอบไปด้วยต้นทุนวัตถุดิบ ค่าแรง และค่าใช้จ่ายในการผลิต รวมทั้งยังต้องบวกค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าสถานที่ หรืออื่น ๆ ลงไปด้วย อาจจะทำให้ราคาขายต่ำกว่าต้นทุนขายที่เกิดขึ้นได้ ดังนั้น ผู้ประกอบการต้องมีทักษะมองต้นทุนเป็น เพื่อให้ได้กำไรมากที่สุดในการทำธุรกิจ ซึ่งวิธีการคิดต้นทุนขายสินค้าฉบับมือใหม่ มีดังนี้

วิธีคิดต้นทุนขายด้วยการหา Yield%

การคิดต้นทุนด้วยการหา Yield% เป็นอัตราผลตอบแทนที่จะได้รับจากการลงทุน ซึ่งมีการคำนวณที่ยึดตามตัวแปรในการประกอบธุรกิจ โดยสูตรที่ใช้คือ Yield% = (ปริมาณวัตถุดิบที่ใช้จริง/ปริมาณวัตถุดิบที่ซื้อ) x 100 ซึ่งจะได้รับอัตราผลตอบแทนที่คิดเป็นเปอร์เซ็นต์

วิธีคิดต้นทุนที่แท้จริงของธุรกิจ

สำหรับสูตรคำนวณต้นทุนต่อมาคือการหาต้นทุนที่แท้จริงของการประกอบกิจการ เพื่อให้ผู้ประกอบการรู้ว่ามีต้นทุนจริงเท่าไร ควรจะตั้งราคาขายอย่างไรเพื่อไม่ให้ขาดทุน โดยจะนำเอาค่า Yield% ที่ได้มาคำนวณคือ ต้นทุนจริง = ราคาที่ซื้อมา / Yield%

วิธีคิดต้นทุนต่อหน่วย

สำหรับวิธีการคิดต้นทุนขั้นตอนสุดท้ายคือการหาต้นทุนต่อหน่วยของสินค้าหรือบริการนั้น ๆ โดยมีสูตรการหาก็คือ ต้นทุนต่อหน่วย = ต้นทุนจริง / จำนวนหน่วย เพียงเท่านี้ก็จะได้วิธีคิดต้นทุนในการขายสินค้าสำหรับมือใหม่แล้ว

ข้อดีของการคำนวณต้นทุนขายสินค้า

• นำไปตั้งราคาสินค้าได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม เช่น สินค้าบางประเภทอาจจะมีกำไรที่น้อย แต่สินค้าบางรายการอาจจะได้กำไรที่เยอะกว่า โดยเป็นการอิงจากราคาตลาดร่วมด้วย
• แข่งขันกับคู่แข่งได้ในเรื่องราคา ผู้ประกอบการสามารถกำหนดราคาในการขายสินค้าได้ เพื่อให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งในเรื่องของราคา
• ผู้ประกอบการสามารถวางแผนการผลิตได้ เนื่องจากรู้ข้อมูลต้นทุนที่แท้จริงแล้ว จึงทำให้สามารถวางแผนการจัดหาสินค้าหรือจ้างแรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ลดการสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการผลิต ผู้ประกอบการสามารถวางแผนบริหารจัดการเพื่อลดของเสียในกระบวนการผลิตได้ ทำให้ต้นทุนของสินค้าลดลง
• ข้อมูลการทำบัญชีที่ละเอียด สำหรับธุรกิจที่มีวิธีคิดต้นทุนการผลิต กำไร และราคาขายอย่างเป็นระบบ จะช่วยลดความเสี่ยงในการเสียค่าปรับทางภาษีได้ และยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือสูง

สินค้าไม่มีต้นทุนจะสามารถขายได้ไหม?

สินค้าทุกประเภทล้วนมีต้นทุนอยู่เสมอ หากต้องการนำสินค้ามาขายโดยที่ไม่คำนึงถึงต้นทุนขายก็อาจจะสามารถทำได้ แต่ผู้ขายเองจะต้องแบกรับความเสี่ยงในการไม่คำนวณต้นทุนเอาไว้ด้วย เพราะการคิดคำนวณต้นทุน กำไร และราคาขายจะทำให้ทราบว่าแนวโน้มในการขายสินค้าประเภทนี้มีแนวทางต่อไปอย่างไร

สรุปวิธีคิดต้นทุนขายสินค้าสำหรับมือใหม่

สุดท้ายนี้ สำหรับมือใหม่ที่กำลังวางแผนในการเริ่มต้นมีธุรกิจเป็นของตัวเอง สิ่งสำคัญที่สุดที่ผู้ประกอบการไม่ควรมองข้ามเลยนั่นก็คือ เรื่องของการคิดคำนวณต้นทุน กำไร และราคาขาย เพื่อให้มีวิธีการคิดคำนวณอย่างเป็นระบบ ซึ่งหากใครที่ยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับด้านบัญชีก็สามารถเลือกใช้โปรแกรมในการคำนวณต้นทุนได้ และที่สำคัญอย่าลืมเลือกใช้บริการตรวจสอบสลิปโอนเงินปลอมจาก Thunder Solution ที่มีความแม่นยำสูง 100% เพื่อช่วยลดระยะเวลาในการตรวจสอบ และเพิ่มความอุ่นใจให้ผู้ประกอบการมั่นใจได้ว่าธุรกิจของคุณจะปลอดภัยและไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพอย่างแน่นอน

หลายคนอาจมีความคิดว่าการเปิดร้านอาหารขนาดใหญ่สักหนึ่งร้าน แล้วลงทุนด้วยเงินก้อนขนาดใหญ่ พร้อมกับจ้างพนักงานเยอะ ๆ ก็อาจจะช่วยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้ระบบร้านอาหารมีความราบรื่นได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วการลงทุนเปิดร้านอาหารขนาดใหญ่ด้วยเงินก้อนโตอาจไม่ได้การันตีว่าธุรกิจร้านอาหารของคุณจะอยู่รอดฝั่งได้ตลอดเวลา เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเปิดร้านอาหาร นั่นก็คือ ‘การวางระบบและการบริหารจัดการร้านอาหาร’ ในวันนี้เราจึงรวบรวม 3 เทคนิคการวางระบบร้านอาหารควรทำอย่างไร เพื่อให้ร้านอาหารของคุณเข้าใกล้เป้าหมายคำว่าประสบความสำเร็จ

3 เทคนิคการวางระบบร้านอาหารให้มีแบบแผน เพื่อมุ่งสู่การประสบความสำเร็จ

การประกอบธุรกิจร้านอาหารจะต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา การจัดการระบบของร้านจึงเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้ร้านมีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งปัจจัยที่จะทำให้ร้านอาหารมีประสิทธิภาพเกิดขึ้นจากหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูล การทำวิจัยการตลาด หรือการใช้แบบสอบถามออนไลน์ เพื่อให้รู้ถึงความต้องการของลูกค้า พร้อมนำมาวิเคราะห์ข้อมูลจากคู่แข่งได้แม่นยำมากขึ้น และปรับปรุงระบบจัดการร้านอาหารให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดย 3 เทคนิคสำคัญในการวางระบบร้านอาหาร ได้แก่

1. ระบบหน้าร้าน

ระบบหน้าร้านอาหาร (Front of House) คือพื้นที่ของห้องอาหารที่คอยบริการลูกค้า ซึ่งประกอบไปด้วยบริเวณที่ลูกค้าต้องสั่งอาหารและรับประทานอาหาร โดยการบริหารจัดการระบบหน้าร้านให้มีประสิทธิภาพจะต้องมีการวางพื้นที่การให้บริการอย่างเป็นสัดส่วน พร้อมกับฝึกพนักงานให้เกิดความเชี่ยวชาญ ซึ่งการวางระบบหน้าร้านจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่

พื้นที่

การเปิดร้านอาหารสิ่งสำคัญที่สุดคือสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าทุกคนที่เข้ามาใช้บริการ จึงต้องมีการวางระบบร้านอาหารในพื้นที่อย่างเหมาะสมตามขั้นตอน ดังนี้

• ตรวจสอบแผนผังของร้าน เริ่มต้นจากการเดินสำรวจการจัดโต๊ะ และเส้นทางเดินว่าบริการลูกค้าได้ทั่วถึงหรือไม่ รวมถึงการวางระบบออเดอร์ ระบบสั่งอาหาร และระบบคิดเงินที่ต้องสอดคล้องกับแผนผังของร้านเพื่อการทำงานของพนักงานที่สะดวกและคล่องตัว
• ดูแลและจัดการระบบการจองโต๊ะอาหาร ควรมีการกำหนดรูปแบบการจองโต๊ะให้เหมาะสม และควรมีระบบจองคิวร้านอาหารที่มีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันลูกค้ารอคิวนาน
• ดูแลบรรยากาศร้าน เพราะบรรยากาศร้านเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยในการตัดสินใจของลูกค้า ทั้งเรื่องของแสงไฟในการจัดร้านที่เหมาะสม รวมถึงเรื่องของกลิ่นภายในร้านที่ต้องหอมและมีความเป็นเอกลักษณ์ 

2. ระบบหลังร้าน

ระบบหลังร้านอาหาร (Back of House) คือส่วนในการผลิตอาหารและเครื่องดื่มจากผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงยังต้องมีลูกมือที่คอยให้ความช่วยเหลือและจัดส่งต่อไปยังพนักงานเสิร์ฟ และสถานที่ประกอบอาหารจะต้องมีการวางแผนอย่างดีเพื่อสนับสนุนการทำงานของระบบหลังร้าน

พื้นที่

ระบบหลังร้านที่ดีของร้านอาหารจะต้องมีการวางผังการทำงานภายในครัวที่ดี เพื่อช่วยให้ระบบการทำงานภายในครัวมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เช่น การจัดโซนสำหรับเตรียมและเก็บวัตถุดิบ โซนการรับส่งออเดอร์ หรือโซนการเก็บล้างทำความสะอาด นอกจากนี้ ยังต้องมีการทดลองการทำงานจริงก่อนเปิดร้านเพื่อทดสอบดูว่าระบบแผนผังที่วางช่วยให้การทำงานในครัวราบรื่นหรือไม่

พนักงานที่รับผิดชอบ

การแบ่งตำแหน่งที่เหมาะสมกับลักษณะงานของพนักงานหลังร้านมีความหลากหลายที่ไม่แตกต่างไปจากระบบหน้าร้าน สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ตำแหน่งหลัก ๆ ได้แก่ หัวหน้าเชฟ ผู้ช่วยเชฟ และพนักงานครัว ซึ่งการวางระบบจัดการร้านอาหารที่ดีจะต้องจัดวางตำแหน่งแต่ละหน้าที่อย่างมีแบบแผน เช่น การมีสูตรอาหารที่เป็นมาตรฐานและทุกคนภายในครัวสามารถทำตามได้จริง หรือการมีระบบข้อมูลร้านอาหารในด้านวัตถุดิบที่สามารถตรวจสอบและควบคุมไม่ให้เกิดการสูญหาย เป็นต้น

3. นำเทคโนโลยีมาใช้จัดการระบบร้านอาหาร

เทคโนโลยีในทุกวันนี้มีการพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด และการนำเทคโนโลยีมาใช้ในร้านอาหารเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้อยู่รอดในสนามธุรกิจร้านอาหาร เพราะเทคโนโลยีที่ทันสมัยจะช่วยมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า เช่น เทคโนโลยีระบบ POS ช่วยบริหารการจองโต๊ะ รอคิว รับออเดอร์ ส่งออเดอร์เข้าครัว และเช็กบิลได้เป็นอย่างดี อีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้คือระบบเทคโนโลยีตรวจสอบสลิปโอนเงินปลอม เพราะส่วนใหญ่แล้วลูกค้าจะชำระเงินผ่านการสแกน QR Code การตรวจสอบสลิปด้วยตัวเองก็อาจจะทำให้ผู้ประกอบการต้องเสียเวลาและเกิดข้อผิดพลาดกันไปบ้าง แต่การเลือกใช้เทคโนโลยีช่วยตรวจสอบสลิปและยืนยันยอดเงินอัตโนมัติด้วย AI ที่ใช้เวลาเพียง 1 วินาทีในการตรวจสอบสลิปปลอม เพื่อทุ่นแรงร้านค้า ประหยัดเวลาเวลาที่มี ให้คุณอุ่นใจและหมดกังวลเรื่องสลิปปลอมไปได้เลย

การมีระบบหลังบ้านที่ดี ช่วยร้านค้าได้อย่างไร

1. ลดความผิดพลาด จัดการงานขายเป็นระบบมากขึ้น

ให้คิดง่าย ๆ ว่ามีระบบหลังบ้าน ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ ก็เหมือนมีผู้ช่วยส่วนตัวคอยช่วยจัดการการทำงานได้เป็นขั้นตอนที่ถูกต้องยิ่งขึ้น ยิ่งมีออเดอร์เยอะ ลูกค้าทักเข้ามาจากหลายช่องทาง การจัดการข้อมูลทั้งหมดด้วยตัวเองโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดและล่าช้าได้ ระบบหลังบ้านจึงจะมาช่วยจัดการข้อมูลการขายทั้งหมดได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว

2. ลดเวลาการทำงาน

ระบบหลังบ้าน หรือ ระบบหลังร้านเป็นตัวช่วยในการลดการทำงานที่ซ้ำซ้อนให้กับของแม่ค้าออนไลน์ให้ทำงานได้ง่ายเป็นระบบขึ้น ตั้งแต่ตอบข้อความลูกค้า จัดการออเดอร์ คอนเฟิร์มออเดอร์ รับชำระเงิน จัดการสต๊อก แพ็คสินค้าจนถึงจัดการขนส่ง ยิ่งเพจร้านค้า หรือร้านที่ไลฟ์สดขายของด้วยก็จะยิ่งให้ความสำคัญกับระบบหลังร้านเป็นพิเศษ เพราะจะช่วยให้จัดการงานขายได้คล่องตัวมากขึ้น ไม่ต้องคอยไล่จดออเดอร์ เช็คสต๊อกตลอดเวลา เปิดบิลให้ลูกค้าเอง เพราะระบบจะคอยจัดการให้เสร็จสรรพ ร้านค้าเพียงแค่รอรับยอดชำระและไปสู่ขั้นตอนต่อไปได้เลย

3. ลดต้นทุน ลดค่าใช้จ่ายบานปลาย

เพราะเมื่อไหร่ที่ร้านเรามีออเดอร์เยอะขึ้น ขายดีขึ้น ร้านค้าก็ต้องจ้างพนักงานมาช่วยจัดการออเดอร์ เพื่อให้สามารถขายของได้ทัน ซึ่งระบบหลังบ้านร้านค้าออนไลน์เข้ามาช่วยลดต้นทุน ค่าใช้จ่ายบางอย่างที่ไม่จำเป็นออกไป เช่น ร้านค้าไม่ต้องจ้างแอดมินตอบแชทหลาย ๆ คนไว้คอยตอบแชทแต่ละแพลตฟอร์ม เพราะระบบหลังบ้านสามารถรวมแชทจากทุกช่องทางเอาไว้ในระบบเดียว หรือการปริ้นท์ใบปะหน้าพัสดุที่สามารถสั่งปริ้นท์ได้จากระบบได้เลยไม่ต้องเขียนมือ และสามารถเรียกรถรับพัสดุเข้ารับได้เลยไม่ต้องออกไปส่งเอง ฯลฯ

4. ช่วยเพิ่มยอดขาย

พอเรามีระบบหลังบ้าน ระบบหลังร้านเข้ามาช่วยจัดการร้านค้าบนโซเชียลของให้เป็นระบบมากกว่าเดิมแล้ว เจ้าของร้านค้าก็จะมีเวลาไปโฟกัสแผนการขาย เพื่อต่อยอดสินค้าให้ดีขึ้น ซึ่งในระบบหลังบ้านหลาย ๆ เจ้าก็จะมีหน้าระบบสถิติ คอยสรุปยอดขายไว้ให้ได้ใช้งานเพื่อนำวางแผนการขายสินค้าเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจร้านค้าบนช่องทางออนไลน์ในครั้งต่อไป

สรุปเทคนิคการวางระบบร้านอาหาร

สำหรับ 3 เทคนิคการวางระบบร้านอาหารที่เราได้แนะนำไปเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของการวางระบบพื้นฐานของร้านอาหารเท่านั้น ซึ่งร้านอาหารแต่ละร้านอาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน เพราะขึ้นอยู่กับประเภทและรูปแบบของร้านอาหารนั้น ๆ แต่สิ่งสำคัญอย่าลืมนำเทคโนโลยีไปปรับใช้ในการจัดการระบบร้านอาหารเพื่อให้ดำเนินไปอย่างราบรื่น และหากใครที่กำลังมองหาระบบในการตรวจสอบสลิปโอนเงินปลอม ให้นึกถึง Thunder Solution เพราะเราพร้อมให้บริการตรวจสอบสลิปโอนเงินผ่านไลน์ได้อย่างแม่นยำ เพื่อช่วยให้ธุรกิจร้านอาหารของคุณอุ่นใจและปลอดภัยจากเหล่ามิจฉาชีพ

ทุกวันนี้ไม่ว่าจะหันมองไปทางไหนก็มักพบเห็นร้านอาหารหรือคาเฟ่ทยอยเปิดตัวใหม่ในทุกตรอกซอกซอยตลอดเวลา ใครที่กำลังอยู่ในช่วงวางแผนเตรียมตัวก้าวเท้าเข้ามาดำเนินธุรกิจนี้อยู่ จึงต้องมีการบริหารจัดการอย่างยอดเยี่ยมกับโจทย์ที่จะทำอย่างไรให้ลูกค้าติดใจและอยากกลับมาอีกครั้ง เพราะในสมรภูมินี้มีการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง หากต้องการยอดขายที่ประสบความสำเร็จ แค่รสชาติที่อร่อยและบริการที่ดีอาจจะยังไม่พอ ในวันนี้เราจึงได้รวบรวม 7 เทรนด์เทคโนโลยีร้านอาหาร ที่พร้อมจะเปลี่ยนโฉมร้านอาหารของคุณเข้าสู่ยุคใหม่ เพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้มากยิ่งขึ้น

7 เทรนด์เทคโนโลยีร้านอาหารที่กำลังมาแรงในยุคนี้

ในปัจจุบันนี้หากใครที่กำลังประกอบธุรกิจเกี่ยวกับร้านอาหารหรือคาเฟ่ให้อยู่รอดปลอดภัยในยุคที่มีการ Disruption ทางเทคโนโลยี นับว่าเป็นเรื่องที่มีความท้าทายเป็นอย่างมาก เพราะผู้ที่อยู่รอดคือผู้ที่ปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้ตลอดเวลา เพราะนอกจากจะช่วยในเรื่องของการบริหารจัดการร้านให้เป็นระบบแล้ว ยังมีส่วนช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี มาดูกันว่า 7 เทรนด์เทคโนโลยีร้านอาหาร ที่จะเปลี่ยนโฉมร้านอาหารเข้าสู่ยุคใหม่มีอะไรบ้าง

1. ระบบ Self-Service ลูกค้าสั่งอาหารผ่านหน้าจอ

สำหรับเทรนด์เทคโนโลยีร้านอาหารอย่างแรกที่อยากแนะนำคือระบบจัดการร้านอาหารแบบ Self-Service เพียงแค่ลูกค้าก้าวเท้าเข้ามาในร้าน พนักงานเดินไปที่โต๊ะของลูกค้าแล้วมอบแท็บเล็ต หรือติดตั้งป้าย QR Code ไว้ที่โต๊ะ เพื่อให้ลูกค้าสามารถสแกนผ่านสมาร์ตโฟนแล้วสั่งอาหารได้ในทันที โดยเทคโนโลยีนี้จะช่วยลดหน้าที่ของพนักงาน ลดความผิดพลาดของออเดอร์ ลดปัญหาการยืนรอคิวสั่งอาหาร และยังช่วยมอบความสะดวกสบายให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี

2. เครื่องเรียกคิวไร้สาย Wireless Queue Calling System

การจัดการคิวที่ไม่เป็นระบบ เป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ของร้านอาหารและคาเฟ่ ในหลายครั้งลูกค้าที่มาก่อนแต่ได้ทีหลัง หรือลูกค้ามาทีหลังแต่ได้ก่อน ปัญหาเหล่านี้เป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรเกิดขึ้นกับลูกค้าเด็ดขาด เพราะจะทำให้ลูกค้าหนีหายและไม่กล้ากลับมาใช้บริการอีก ซึ่งปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่เรียกว่า Wireless Queue Calling System ระบบเรียกคิวไร้สายที่มีไฟและเสียงแจ้งเตือนเพื่อให้ลูกค้ารับรู้ได้ว่าถึงคิวหรือได้อาหารแล้ว หรือระบบเรียกคิวผ่านแอปพลิเคชันที่ให้ลูกค้าสามารถไปเดินเล่นในระหว่างที่รอคิวก่อนได้ เพื่อไม่ต้องเสียเวลามานั่งรอที่หน้าร้านเป็นเวลานาน

3. ลงทุนกับระบบจัดการร้านอาหาร Point of Sales

ระบบ POS หรือ Point of Sales ในยุคนี้ได้ถูกพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด โดยที่ไม่ได้มีหน้าที่แค่เพียงคิดเงินและทอนเงินเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะยังสามารถจัดเก็บข้อมูลที่มีความจำเป็นต่อร้านอาหารได้อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การรายงานยอดขายได้แบบเรียบไทม์ รายวัน รายเดือน หรือรายปี นอกจากนี้ยังสามารถดูจำนวนวัตถุดิบคงเหลือ โปรโมชันร้าน รวมทั้งทำงานร่วมกับระบบ CRM ช่วยจัดการสมาชิกและการสะสมแต้มได้อย่างแม่นยำ ทำให้ผู้ประกอบการร้านอาหารหรือคาเฟ่สามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปวิเคราะห์เพื่อวางแผนธุรกิจได้อย่างตรงจุด ตอบโจทย์การลงทุนและช่วยเพิ่มยอดขายได้ในระยะยาว

4. เข้าร่วมกับ Food Aggregator เพื่อบริการส่งอาหารถึงหน้าบ้านลูกค้า

Food Aggregator คือตัวกลางระหว่างผู้ประกอบการร้านอาหาร เครื่องดื่มกับผู้บริโภคที่จะช่วยให้เรื่องของการสั่งอาหารเป็นเรื่องที่ง่ายแค่เพียงปลายนิ้วสัมผัส ซึ่งลูกค้าสามารถกดสั่งออเดอร์ผ่านแอปพลิเคชันแล้วรออยู่ที่ผ่านได้แบบไม่ต้องออกมาซื้อที่ร้าน ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างมาก ในประเทศไทยมี Food Aggregator อยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น LINEMAN, Grab Food, Robinhood หรือ Food Panda เป็นต้น นอกจากนี้ ยังช่วยขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ ได้อีกด้วย และการถ่ายภาพเมนูและเครื่องดื่มให้สวยงาม รวมถึงจัดโปรโมชันบ่อย ๆ จะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้ากดสั่งออเดอร์ให้ร้านของเราได้มากขึ้น

5. ตอบรับสังคมไร้เงินสดด้วยระบบชำระเงินแบบไร้สัมผัส

เพราะในปัจจุบันนี้ ผู้คนพกเงินสดน้อยลงและหันมาทำธุรกรรมการเงินผ่าน Mobile Banking มากขึ้น นอกจากเรื่องของการเตรียม e-Payment ให้ลูกค้าไว้ได้ชำระเงินแล้ว อย่าลืมเตรียมช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ระบบโอนเงิน บัตรเครดิต บัตรเดบิต สแกนจ่ายด้วย QR Code หรือแอปพลิเคชันต่าง ๆ เพื่อความสะดวกสบายแก่ลูกค้า

6. เลือกซัพพลายเออร์มืออาชีพ เพื่อส่งวัตถุดิบถึงหน้าร้าน

ผู้ประกอบการควรเลือกใช้ซัพพลายเออร์ที่มีความเป็นมืออาชีพ มีประสบการณ์สูง และมีความน่านับถือ เพราะจะช่วยในเรื่องของการบริหารจัดการสินค้าได้อย่างแม่นยำ โดยที่ผู้ประกอบการไม่ต้องเสียเวลาตื่นเช้าไปซื้อของที่ตลาด ตัดปัญหาตุนวัตถุดิบจนใช้ไม่ทัน และยังสามารถจำกัดงบประมาณในการสั่งวัตถุดิบได้อีกด้วย

7. ระบบตรวจสอบสลิปปลอมผ่าน API

ในทุกวันนี้ผู้คนหันมาทำธุรกรรมการเงินผ่าน Mobile Banking กันมากยิ่งขึ้น หรือเรียกง่าย ๆ ว่านิยมสแกนจ่ายสินค้าผ่าน QR Code กันมากกว่าการใช้เงินสด จึงทำให้เหล่ามิจฉาชีพได้ปลอมแปลงสลิปปลอมขึ้นมาเพื่อใช้หลอกลวงพ่อค้า แม่ค้า และผู้ประกอบการร้านค้าต่าง ๆ การเลือกใช้ผู้ให้บริการตรวจสลิปปลอมผ่านไลน์อย่าง Thunder Solution จึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ตอบโจทย์ผู้ประกอบการได้เป็นอย่างดี เพราะในเวลาที่คุณทำการตรวจสอบสลิปการโอนเงินด้วยตัวเองอาจเกิดการตกหล่นและเกิดความผิดพลาดจนทำให้ขาดทุนได้

Thunder Solution จะช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องของการตรวจสลิปปลอม เพียงแค่สมัครสมาชิกแล้วเลือกแพ็กเกจที่เหมาะสมกับธุรกิจร้านค้าของคุณ ทำการติดตั้ง API ที่ไลน์ร้านค้าก็สามารถเริ่มต้นบริการตรวจสอบสลิปปลอมผ่านไลน์ได้ทันที ด้วยการศึกษาและพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อให้ตอบโจทย์ในการแก้ปัญหาสลิปปลอม ซึ่งสามารถตรวจสอบสลิปโอนเงินที่ใช้เวลาเพียงไม่ถึง 1 วินาที และให้ความแม่นยำสูงถึง 100% เพื่อลดภาระงานต่าง ๆ ของร้านค้าและป้องกันให้คุณไม่ตกเป็นเหยื่อของเหล่ามิจฉาชีพ

Thunder Solution พัฒนาระบบตรวจสอบการโอนเงินอย่างรัดกุม โดยมีระบบคุ้มกันข้อมูลหลายขั้น และไม่มีนโยบายส่งต่อข้อมูลของผู้ใช้งานต่อให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องหรือนำไปใช้โดยไม่ยินยอม เพราะฉะนั้นร้านค้าสามารวางใจในระบบเช็คสลิปปลอมผ่าน API ของ Thunder Solution ได้แน่นอน 100%

สรุปเทรนด์เทคโนโลยีร้านอาหาร

สุดท้ายนี้ เมื่อเทรนด์เทคโนโลยีที่มีความเปลี่ยนแปลงและพัฒนาขึ้นอยู่ตลอดเวลา ผู้ประกอบจึงต้องมีการปรับตัวและก้าวให้ทันอยู่เสมอ รวมทั้งอย่าลืมนำ 7 เทรนด์เทคโนโลยีร้านอาหารที่เราได้แนะนำไปปรับใช้กับร้านอาหารหรือคาเฟ่ของคุณ เพื่อช่วยให้การบริหารจัดการร้านเป็นไปอย่างราบรื่น ช่วยเพิ่มกำไรและลูกค้ากลุ่มใหม่มากขึ้นเรื่อย ๆ ตอบโจทย์การทำธุรกิจได้ในระยะยาว

ในปัจจุบันนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการทำธุรกรรมทางการเงินแบบออนไลน์ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก สิ่งสำคัญที่ทำให้ผู้คนนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายคงเป็นเรื่องของความสะดวกสบายในการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นต้องพกเงินสด และเชื่อว่าทุกคนคงจะคุ้นเคยกับสลิปการโอนเงินของตัวเองที่มีคิวอาร์โค้ดอยู่ในนั้น เคยสงสัยกันหรือไม่ว่าคิวอาร์โค้ดนี้มีไว้ทำอะไร เมื่อสแกนดูแล้วจะสามารถบอกข้อมูลอะไรแก่เราได้บ้าง ตามไปหาคำตอบได้ในบทความนี้

คิวอาร์โค้ด (QR Code) คืออะไร

เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นเคยกันดีกับคิวอาร์โค้ดที่มีรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ข้างในรูปสี่เหลี่ยมจะมีรูปทรงสีดำต่าง ๆ ประกอบกันไปทั่ว โดยคำว่า คิวอาร์โค้ด (QR Code) ย่อมาจาก Quick Respones ที่ได้รับการพัฒนามาจากบาร์โค้ด ซึ่งในปี 1994 มีผู้ที่นำมาใช้งานเป็นครั้งแรกก็คือประเทศญี่ปุ่น คอยทำหน้าที่เป็นสัญลักษณ์ทดแทนข้อมูลต่าง ๆ เพื่อให้ผู้อื่นสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว และครบถ้วน ส่วนใหญ่แล้วนิยมนำมาใช้งานกับธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ โฆษณา และในปัจจุบันนี้ QR Code เป็นสิ่งที่สามารถสร้างได้ง่าย ๆ จากการติดตั้งโปรแกรม QR Code หรือเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่ให้บริการแบบออนไลน์

หน้าที่หลักของคิวอาร์โค้ดบนสลิปโอนเงิน

สำหรับหน้าที่หลักของคิวอาร์โค้ดบนสลิปโอนเงินมีไว้เพื่อให้ผู้รับเงินปลายทางสามารถเช็กดูได้ว่ามีการทำธุรกรรมเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ซึ่งสามารถเช็กได้ง่าย ๆ และสะดวกสบาย เพียงแค่สแกน QR Code ก็สามารถเช็กได้ในทันทีว่าสลิปโอนเงินนี้เป็นของจริงหรือของปลอม รวมทั้งยังรองรับการใช้งานได้กับทุกธนาคาร ซึ่งในปัจจุบันนี้สลิปโอนเงินของทุกธนาคารจะมีคิวอาร์โค้ดอยู่บนสลิป หากสลิปโอนเงินไม่มีคิวอาร์โค้ดก็อาจสันนิษฐานได้ว่าเป็นสลิปโอนเงินปลอม

วิธีเช็คคิวอาร์โค้ดโอนเงิน

สำหรับวิธีเช็ค QR Code โอนเงินโดยปกติแล้ว QR Code จะปรากฏอยู่บนสลิปโอนเงิน ซึ่งสลิปออนไลน์จะมาในรูปแบบ E-Slip ที่สามารถสแกนคิวอาร์โค้ดสลิปโอนเงินเพื่อตรวจสอบคิวอาร์โค้ดโอนเงินให้รู้ถึงรายละเอียดต่าง ๆ ได้อย่างครบถ้วน ทั้งชื่อผู้โอน ชื่อผู้รับ จำนวนเงิน วันที่ และเวลาโอน ในกรณีที่มียอดเงินไม่ตรงกับที่ได้รับ หรือไม่สามารถสแกนดูที่ QR Code ได้ สามารถสันนิษฐานได้เลยว่าเป็นสลิปโอนเงินปลอม ซึ่งขั้นตอนสแกนสลิปโอนเงินหรือการตรวจสอบสลิปด้วยการสแกน QR Code ได้แก่

• บันทึกสลิปโอนเงินที่ได้รับไว้ในสมาร์ตโฟน
• เปิดแอปพลิเคชันธนาคาร
• กดเข้าไปที่สแกน QR Code
• เลือกสแกนจากรูปภาพ แล้วเลือกรูปสลิปที่บันทึกไว้
• หากสลิปเป็นของจริงจะปรากฏข้อมูลการทำธุรกรรมนั้น ๆ 

อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนการตรวจสอบ QR Code โอนเงินด้วยการสแกน QR Code ควรตรวจสอบทันทีเมื่อได้รับสลิปมา เพราะ QR Code บนสลิปของธนาคารจะมีระยะเวลาจำกัด ตั้งแต่ 7 วัน ถึง 60 วัน

ทำไมจึงไม่ควรโพสต์สลิปโอนเงิน

Facebook ได้มีการอัปเดตนโยบายที่ยกระดับความเข้มงวดเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากช่วงเวลาที่ผ่านมาต้องเจอกับเนื้อหาต่าง ๆ ที่ถูกปล่อยมาในโลกโซเชียลมีเดียแล้วมีการดัดแปลงและละเมิดสิทธิบางอย่างของผู้ใช้งานมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงทำให้เกิดเรื่องราวมากมายที่ส่งผลกระทบในหลายด้าน โดยเฉพาะการขายของออนไลน์ที่มีความเข้มงวดมากขึ้นและเพื่อเป็นการช่วยรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน รวมถึงป้องกันความเสี่ยงจากการถูกโจรกรรมข้อมูล ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากอันตรายต่อการใช้งานโซเชียลมีเดียให้มีความปลอดภัย

เพราะเหตุใดจึงไม่ควรโพสต์สลิปโอนเงิน หากอ้างอิงจากนโยบายมาตรฐานชุมชนที่อัปเดตล่าสุดในปี 2023 โดยมีหนึ่งข้อที่ระบุว่า ‘ผู้ใช้งานห้ามโพสต์ข้อมูลที่เอื้อต่อการขโมยข้อมูลที่ระบุตัวตน โดยการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินส่วนบุคคลทั้งของตนเองและของผู้อื่น’ สลิปโอนเงินจึงเป็นการโอนเงินส่วนบุคคลที่เข้าข่ายผิดกฎของ Facebook เพราะมีข้อมูลทั้งผู้โอนและผู้รับที่ปรากฏอยู่บนสลิป ดังนั้น พ่อค้า แม่ค้า และร้านค้าออนไลน์ที่มีการโพสต์ขายของที่หน้าเพจ Facebook ควรระมัดระวังในการโพสต์สลิปให้มากขึ้น เพราะถือว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายของ Facebook หากต้องการส่งหลักฐานการโอนเงิน ควรส่งในแชทข้อความส่วนตัวเพื่อความปลอดภัย

ทําไมต้องปิด QR Code สลิปโอนเงิน

อย่างที่หลายคนคงรู้กันดีอยู่แล้วว่าข้อมูลใน QR Code บนสลิปโอนเงินเป็นข้อมูลส่วนตัวที่ไม่ควรเปิดเผยสู่พื้นที่สาธารณะ เพราะอาจจะทำให้เหล่ามิจฉาชีพสามารถนำข้อมูลจาก QR Code ไปแฮ็กข้อมูลการเงินของเราได้ แต่ถ้าหากไปตรวจสอบข้อเท็จจริงจากสำนักงานคณะกรรมการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ (กสมช.) พบว่าการปิด QR Code บนสลิปโอนเงินเป็นแหล่งข่าวลือที่ไม่เป็นความจริง ซึ่งต่อไปนี้เราไม่จำเป็นต้องปิด QR Code บนสลิปโอนเงินเพื่อป้องกันมิจฉาชีพ เพราะคิวอาร์โค้ดบนสลิปโอนเงินเป็นเพียงแค่รายละเอียดการทำธุรกรรม ซึ่งไม่มีข้อมูลที่เป็นความลับส่วนบุคคลที่มิจฉาชีพจะนำไปแฮ็กได้

สรุปบทความสแกนคิวอาร์โค้ดโอนเงิน

สุดท้ายนี้ หากคุณเกิดความกังวลว่าจะโดนมิจฉาชีพนำคิวอาร์โค้ดในสลิปโอนเงินไปทำสิ่งที่ไม่ดีและส่งผลเสียต่อร้านค้าของตัวเอง สามารถเลือกใช้บริการและไว้ใจให้ Thunder Solution ช่วยดูแล เพราะมาพร้อมบริการตรวจสอบสลิปอัตโนมัติที่ได้รับการพัฒนาให้สามารถตรวจสอบสลิปได้แบบเรียลไทม์จากทุกธนาคารในประเทศไทย พร้อมด้วยระบบจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลของสลิปโอนเงินที่เข้ามายังร้านผ่านบริการ 2 ประเภท ได้แก่ LINE Chatbot และ LINE OA ที่มีทั้งบริการอันรวดเร็วและแม่นยำในการเช็กสลิปโอนเงินปลอม เพื่อช่วยลดภาระงานต่าง ๆ ของร้านค้า

นอกจากการเช็กสลิปโอนเงินปลอมผ่านไลน์แล้ว Thunder Solution ยังมีระบบหลังบ้านที่จะช่วยให้ร้านค้าสามารถเช็กทุกยอดโอนจ่ายผ่านระบบบันทึกรายจ่ายได้ ไม่ว่าจะเป็นรายวัน รายเดือน หรือรายปี ก็สามารถทำได้ เพื่อป้องกันร้านค้าของคุณไม่ตกเป็นเหยื่อของเหล่ามิจฉาชีพ

ในช่วงปีที่ผ่านมา Facebook ได้มีการอัปเดตนโยบายที่ยกระดับความเข้มงวดเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากช่วงเวลาที่ผ่านมาต้องเจอกับเนื้อหาต่าง ๆ ที่ถูกปล่อยมาในโลกโซเชียลมีเดียแล้วมีการดัดแปลงและละเมิดสิทธิบางอย่างของผู้ใช้งานมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงทำให้เกิดเรื่องราวมากมายที่ส่งผลกระทบในหลายด้าน โดยเฉพาะการขายของออนไลน์ที่มีความเข้มงวด จึงทำให้ร้านค้าออนไลน์เกิดคำถามว่าสามารถโพสต์สลิปโอนเงินเพื่อแจ้งลูกค้าได้ไหม ตามไปหาคำตอบพร้อมกันในบทความนี้

ไขข้อสงสัย โพสต์สลิปโอนเงินได้ไหม

เชื่อว่าหลายคนคงเห็นข่าวจากช่องทางต่าง ๆ เกี่ยวกับการเพิ่มกฎระเบียบในการโพสต์ข้อมูลลงบน Facebook กันมาบ้างแล้ว เพื่อเป็นการช่วยรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน รวมถึงป้องกันความเสี่ยงจากการถูกโจรกรรมข้อมูล ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากอันตรายต่อการใช้งานโซเชียลมีเดียให้มีความปลอดภัย

สำหรับคำถามว่า Facebook สามารถโพสต์สลิปโอนเงินได้ไหม หากอ้างอิงจากนโยบายมาตรฐานชุมชนที่อัปเดตล่าสุดในปี 2023 โดยมีหนึ่งข้อที่ระบุว่า ‘ผู้ใช้งานห้ามโพสต์ข้อมูลที่เอื้อต่อการขโมยข้อมูลที่ระบุตัวตน โดยการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินส่วนบุคคลทั้งของตนเองและของผู้อื่น’ สลิปโอนเงินจึงเป็นการโอนเงินส่วนบุคคลที่เข้าข่ายผิดกฎของ Facebook เพราะมีข้อมูลทั้งผู้โอนและผู้รับที่ปรากฏอยู่บนสลิป ดังนั้น พ่อค้า แม่ค้า และร้านค้าออนไลน์ที่มีการโพสต์ขายของที่หน้าเพจ Facebook ควรระมัดระวังในการโพสต์สลิปให้มากขึ้น เพราะถือว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายของ Facebook หากต้องการส่งหลักฐานการโอนเงิน ควรส่งในแชทข้อความส่วนตัวเพื่อความปลอดภัย

6 ข้อมูลสำคัญที่ห้ามโพสต์ลง Facebook

นอกจากเรื่องของสลิปโอนเงินที่ห้ามโพสต์ลง Facebook แล้ว ยังมีข้อมูลอื่น ๆ ที่ไม่สามารถโพสต์ได้อีก ไม่ว่าจะเป็นเพจร้านค้าหรือบัญชีส่วนตัวที่อาจจะโดนแบนไม่ให้สามารถใช้งานแพลตฟอร์มได้อีก โดยเฉพาะพ่อค้าและแม่ค้าออนไลน์ที่ต้องเพิ่มความเข้มงวดในการโพสต์มากยิ่งขึ้น ไปดูกันว่า 6 ข้อมูลที่ห้ามโพสต์ลง Facebook มีอะไรบ้าง

1. ข้อมูลระบุตัวตน

สำหรับข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนของผู้อื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง ข้อมูลทะเบียนพลเมือง เอกสารการพำนักและการเดินทาง ข้อมูลระบุตัวตนทางดิจิทัล ใบขับขี่หรือป้ายทะเบียน ยกเว้นการแชร์เพื่อตามหาเจ้าของ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนี้ห้ามโพสต์ลง Facebook เด็ดขาด

2. ข้อมูลติดต่อส่วนบุคคล

ข้อมูลติดต่อส่วนบุคคลที่ห้ามโพสต์ลง Facebook จะมีตั้งแต่หมายเลขโทรศัพท์ อีเมลส่วนตัว โดยส่วนนี้เองจะมีข้อยกเว้นเมื่อเป็นการแชร์ที่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของข้อมูล หรือเจ้าของข้อมีการเปิดเผยต่อสาธารณะ ซึ่งมีข้อยกเว้นในการแชร์เพื่อสนับสนุนโครงการการกุศล การตามหาคน สัตว์ หรือวัตถุที่สูญหาย และการติดต่อธุรกิจหรือผู้ให้บริการ

3. ข้อมูลที่อยู่อาศัย

ข้อนี้เป็นเรื่องที่พ่อค้าและแม่ค้าควรจะต้องระวังเป็นอย่างมาก เพราะการโพสต์ถึงรายละเอียดที่อยู่อาศัยของลูกค้า หรือภาพถ่ายพัสดุที่ติดอยู่ในการจัดส่งจะถือว่าผิดกฎของ Facebook ทันที รวมทั้งเลขพัสดุที่สามารถนำไปค้นหารายละเอียดได้เช่นกัน หากเพจร้านค้าต้องการโพสต์ลงโซเชียลควรปิดเลขพัสดุทุกครั้งก่อนโพสต์

4. ข้อมูลทางการเงิน

อีกหนึ่งข้อมูลที่ห้ามโพสต์ลงโซเชียลก็คือข้อมูลทางการเงินต่าง ๆ ทั้งหมายเลขบัญชีธนาคาร รหัส PIN สลิปโอนเงิน รวมไปถึงข้อมูลที่อยู่บนบัตรเดบิตและบัตรเครดิตทั้งหมด เพื่อเป็นการป้องกันมิจฉาชีพนำข้อมูลเหล่านี้ไปทำสิ่งที่ไม่ดี

5. ข้อมูลทางการแพทย์

สำหรับข้อมูลทางการแพทย์ หรือเอกสารทางการแพทย์เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ห้ามโพสต์ลงบน Facebook ไม่ว่าจะเป็นเอกสารทางด้านจิตวิทยา โรคทางพันธุกรรม หรือเอกสารที่ออกโดยเวชระเบียนของโรงพยาบาล เพราะหากโพสต์ข้อมูลทางการแพทย์เหล่านี้ก็จะอาจจะทำให้ถูกแบนจากการใช้งานแพลตฟอร์มได้

6. ข้อมูลที่ได้มาจากแหล่งข้อมูลที่ถูกแฮ็ก

สำหรับการแฮ็กข้อมูลของบุคคลอื่นแล้วนำมาเปิดเผยต่อสาธารณะจะถือว่าผิดกฎการใช้งานของ Facebook และยังถือว่าเป็นการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมายอีกด้วย ยกเว้นแต่ว่าเป็นการรายงานข่าว แต่จะต้องมีการตัดต่อแค่เพียงเนื้อหาสาระสำคัญถึงจะสามารถเผยแพร่ได้

สรุปโพสต์สลิปโอนเงินได้ไหม

สุดท้ายนี้ สำหรับคำถามและข้อสงสัยว่าแพลตฟอร์ม Facebook พ่อค้า แม่ค้า และเพจร้านค้าสามารถโพสต์สลิปโอนเงินได้ไหม คำตอบคือไม่สามารถโพสต์ลงได้เพราะเข้าข่ายนโยบายมาตรฐานชุมชนที่อัปเดตในปี 2023 ข้อหนึ่งที่ระบุว่า ‘ผู้ใช้งานห้ามโพสต์ข้อมูลที่เอื้อต่อการขโมยข้อมูลที่ระบุตัวตน โดยการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินส่วนบุคคลทั้งของตนเองและของผู้อื่น’ ดังนั้น ก่อนที่จะโพสต์ข้อมูลต่าง ๆ ควรมีการระวังและศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ผิดกฎระเบียบของ Facebook และกฎหมาย หากนึกถึงเรื่องของการตรวจสลิปโอนเงินปลอม Thunder Solution พร้อมดูแลเรื่องการตรวจสอบสลิปปลอมให้ธุรกิจคุณได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

การทำธุรกรรมทางการเงินผ่าน Mobile Bangking เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะพ่อค้าและแม่ค้าออนไลน์ที่ต้องเจอลูกค้าซื้อสินค้าพร้อมส่งสลิปการโอนเงินเข้ามาแบบรัว ๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดการตกหล่นและไม่ได้มีการตรวจสลิปโอนเงินให้ถี่ถ้วน สุดท้ายแล้วอาจพบกับสลิปโอนเงินปลอมจากเหล่ามิจฉาชีพก็เป็นได้ หากวันใดวันหนึ่งคุณต้องเจอกับเหตุการณ์สลิปปลอมด้วยตัวเอง ควรจะทำอย่างไรต่อดี เรื่องนี้สามารถแจ้งความได้หรือไม่ และมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง บทความนี้ได้รวบรวมทุกข้อสงสัยไว้ให้คุณแล้ว

ทำความรู้จักกับสลิปปลอม

สลิปปลอม หรือสลิปการโอนเงินปลอม เป็นสิ่งที่มิจฉาชีพสร้างหรือปลอมแปลงขึ้นมาเพื่อใช้โกงกับพ่อค้า แม่ค้า และการซื้อสินค้าออนไลน์ โดยจะทำการส่งสลิปโอนเงินปลอมให้กับทางร้านค้า เพื่อให้ร้านค้าจัดส่งสินค้าให้ แต่ในความจริงแล้วยังไม่ได้มีการชำระเงินใด ๆ ซึ่งในสลิปปลอมจะระบุจำนวนเงิน ชื่อผู้ส่ง และผู้รับ ที่มีความเหมือนกับสลิปของจริง ส่งผลทำให้พ่อค้าและแม่ค้าเกิดความเสียหายและขาดทุนกันเป็นจำนวนมาก

เจอสลิปปลอมแจ้งความได้ไหม ควรทำอย่างไรต่อ?

ในกรณีที่พ่อค้าและแม่ค้าได้ทำการตรวจสอบสลิปโอนเงินจากลูกค้าแล้วพบว่าเป็นสลิปปลอม ถือว่าเป็นเรื่องที่มีความผิดทางกฎหมายและสามารถแจ้งความเพื่อดำเนินคดีได้ แต่ถ้าหากพ่อค้าและแม่ค้าไม่ได้มีการดำเนินการใด ๆ มิจฉาชีพก็จะไปทำแบบนี้กับร้านค้าอื่น ๆ ต่อไปที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อไปอย่างเป็นวงกว้าง โดยขั้นตอนการดำเนินคดีเมื่อเจอสลิปปลอม ได้แก่

1.รวบรวมหลักฐาน

พ่อค้าและแม่ค้าควรรวบรวมหลักฐานทุกอย่างให้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นแชท ข้อความเสียง หรือรูปภาพ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดี ซึ่งเอกสารทั้งหมดที่นำมาจะต้องมีรายละเอียดที่บ่งบอกได้ว่าเราคือผู้เสียหายจริง ๆ รวมทั้งยังต้องมีหลักฐานที่แสดงถึงความเสียหายที่เกิดขึ้น เช่น หลักฐานการจัดส่งสินค้าให้มิจฉาชีพ เพื่อยืนยันว่าเราเป็นผู้เสียหาย

2.แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

เมื่อรวบรวมหลักฐานที่บ่งบอกว่าเราคือผู้เสียหายได้ครบถ้วนแล้ว ต่อไปคือการเดินทางไปยังสถานีตำรวจเพื่อเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหลังจากนี้ผู้เสียหายไม่ควรปล่อยเรื่องให้เงียบลง ควรที่จะติดตามคดีอย่างต่อเนื่อง หากไม่ต้องการที่จะจ้างทนาย การตามหาทนายอาสาก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3.ส่งเรื่องฟ้องร้อง และพิจารณาโทษ

หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมกับพิจารณาว่าเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายมาตราใด เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะส่งเรื่องฟ้องร้อง สุดท้ายแล้วก็ต้องมีการไปขึ้นศาลและรอคำสั่งจากศาลว่าต้องจำคุกกี่ปี ปรับเงินกี่บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในกรณีที่เรื่องไม่จบที่ศาลก็อาจจะมีการยอมความกันได้ และมีขั้นตอนการไกล่เกลี่ยตามมา ซึ่งจุดสำคัญในขั้นตอนของการฟ้องร้อง ควรมีหลักฐานที่มากเพียงพอ โดยเฉพาะข้อมูลของฝั่งมิจฉาชีพ เพราะหากไม่มีข้อมูลที่มากพอก็อาจจะตามสืบและเอาผิดได้ยากเช่นกัน

ความผิดทางกฎหมายของสลิปปลอม

หลังจากที่ได้รู้กันไปแล้วว่าสลิปปลอมเป็นเรื่องที่สามารถแจ้งความเพื่อดำเนินคดีได้ รวมทั้งยังมีขั้นตอนต่าง ๆ ที่สามารถดำเนินการเพื่อเอาผิดกับเหล่ามิจฉาชีพที่ปลอมแปลงสลิปปลอมขึ้นมาเพื่อหลอกลวงพ่อค้าและแม่ค้า รวมทั้งการใช้สลิปโอนเงินปลอมยังมีความผิดตามบทบัญญัติของกฎหมาย โดยการปลอมสลิปโทษและปลอมสลิปโอนเงินโทษมี ดังนี้

1.ความผิดฐานฉ้อโกง

ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ผู้ใดโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงความเป็นเท็จ หรือปกปิดความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ถอนหรือทำลายเอกสารสิทธิ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

2.ความผิดฐานกระทำและใช้เอกสารปลอม

ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 269/1 ผู้ใดทำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมขึ้นทั้งฉบับ หรือส่วนหนึ่งส่วนใด เติมหรือตัดทอนข้อความ หรือแก้ไขด้วยประการใด ๆ ในบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่แท้จริง โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ถ้าได้ทำเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่แท้จริง หรือเพื่อใช้ประโยชน์อย่างหนึ่งอย่างใด ผู้นั้นกระทำความผิดฐานปลอมบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 100,000 บาท

3.ความผิดฐานนำเข้าข้อมูลเท็จตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์

พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

สลิปปลอมแจ้งความภายในกี่วัน และยอมความได้ไหม

สำหรับคำถามเมื่อถูกปลอมแปลงสลิปโอนเงินจะแจ้งความสลิปปลอมภายในกี่วัน เนื่องจากการปลอมแปลงสลิปปลอมเป็นความผิดฐานฉ้อโกงจึงต้องรีบแจ้งความภายใน 3 เดือน นับตั้งแต่รู้ว่าได้สลิปปลอม หรือรู้ตัวของมิจฉาชีพ และการปลอมแปลงสลิปเป็นความผิดต่อส่วนตัวที่สามารถยอมความกันได้ ถึงแม้ว่าผู้กระทำผิดจะได้ชดใช้เงินคืนให้กับผู้เสียหายไปทั้งหมดหรือแค่บางส่วนก็ตาม

วิธีสังเกตสลิปปลอม

• ความคมชัดของตัวหนังสือบนสลิป ให้สังเกตที่ตัวอักษรและตัวเลขบนสลิป ทั้งชื่อ นามสกุล จำนวนเงิน วันที่ และเวลาโอน ซึ่งจะต้องมีความชัด ความหนาเท่ากัน และใช้ฟอนต์เดียวกันทั้งหมด 
• สแกน QR Code โดยเปิดผ่านแอปพลิเคชันธนาคารที่ร้านค้าได้สมัครการทำธุรกรรมออนไลน์เอาไว้ เมื่อสแกนแล้วจะสามารถเช็กได้จากชื่อผู้โอน วันที่ เวลา และจำนวนเงิน เพื่อให้รู้ว่าตรงกับยอดเงินที่ตกลงเอาไว้หรือไม่
• ตรวจสอบยอดเงินในบัญชี เป็นวิธีง่าย ๆ ที่สามารถตรวจสอบยอดเงินโอนเข้าจากแอปพลิเคชันธนาคาร แต่วิธีนี้อาจจะไม่เหมาะกับร้านค้าที่มียอดขายเยอะหรือหลายสาขา

สรุปบทความถูกปลอมสลิปการโอนเงิน แจ้งความได้ไหม

สุดท้ายนี้ เรื่องของการทำธุรกรรมออนไลน์ที่มีข้อดีในเรื่องของความสะดวกสบาย แต่ผู้ใช้งานทุกคนก็ควรที่จะระมัดระวังมากเป็นพิเศษ เพราะวันหนึ่งเราอาจหลงกลและกลายเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้ หากตกเป็นเหยื่อเมื่อไหร่ให้รีบรวบรวมหลักฐานเพื่อไปแจ้งความดำเนินคดี และหมั่นสังเกตสลิปปลอมและวิธีป้องกันต่าง ๆ เพื่อทำธุรกรรมการเงินทางออนไลน์ได้อย่างมั่นใจ และที่สำคัญอย่าลืมเลือกใช้บริการตรวจสอบสลิปโอนเงินปลอมจาก Thunder Solution ที่มีความแม่นยำสูง 100% เพื่อช่วยลดระยะเวลาในการตรวจสอบ และเพิ่มความอุ่นใจให้ผู้ประกอบการมั่นใจได้ว่าธุรกิจของคุณจะปลอดภัยและไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพอย่างแน่นอน

ในปัจจุบันนี้รูปแบบการโอนที่นิยมมากที่สุดถูกเปลี่ยนมาเป็นการโอนเงินผ่านช่องทางออนไลน์มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการซื้อสินค้า การขายสินค้า หรือแม้กระทั่งการโอนเงินให้คนรู้จักก็ตาม ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้เกิดการโกงในรูปแบบของสลิปโอนเงินปลอมขึ้นมาจากเหล่ามิจฉาชีพ ที่อ้างว่าได้ทำการโอนเงินเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับส่งสลิปปลอมเป็นหลักฐาน โดยสลิปปลอมเหล่านี้ถูกตัดต่อรูปขึ้นมาเพื่อให้ดูแนบเนียนและเหมือนสลิปของจริง จึงทำให้หลายคนตกเป็นเหยื่อกลโกงมาแล้วนับไม่ถ้วน

สลิปโอนเงินปลอม เช็คได้จริง รู้ทัน เพื่อป้องกันมิจฉาชีพ

หนึ่งปัญหาใหญ่ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับคนทำธุรกิจมาแล้วนับไม่ถ้วน นั่นก็คือ ‘สลิปโอนเงินปลอม’ ซึ่งเหล่ามิจฉาชีพมักจะปลอมแปลงสลิปขึ้นมาแล้วทำการกล่าวอ้างกับร้านค้าว่าได้ทำการโอนเงินเรียบร้อยแล้ว หากทางร้านไม่ได้มีการตรวจเช็คก็จะส่งสินค้าให้กับลูกค้าโดยที่เงินยังไม่เข้าบัญชีของร้าน ส่งผลให้ขาดทุนได้ง่าย ๆ เพื่อเป็นการป้องกันและไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ มาดูกันว่า 4 วิธีเช็คสลิปปลอมจากหลายธนาคาร สามารถทำได้อย่างไรบ้าง

รวม 4 วิธีเช็คสลิปปลอมจากหลายธนาคาร

วิธีเช็คสลิปปลอมธนาคารกสิกร

สำหรับวิธีแรกกับการเช็คสลิปปลอมกสิกร และเช็คสลิปโอนเงินกสิกร ซึ่งเป็นการตรวจสอบสลิปในรูปแบบเลือกสแกน QR Code จาก e-Slip โดยเริ่มต้นเข้าสู่แอปพลิเคชัน K PLUS ของธนาคารกสิกร เลือก ‘สแกน’ แล้วเลือกสแกน QR Code จาก e-Slip เพียงเท่านี้ก็จะแสดงข้อมูลและรายละเอียดสแกนโอนเงินอย่างครบถ้วน ทั้งชื่อผู้โอน จำนวนเงิน วันที่ และเวลา เท่ากับว่าสลิปโอนเงินนี้เป็นของจริง แต่ถ้าหากสแกนตรวจสอบสลิปกสิกรดูแล้วพบข้อความว่า “ขออภัย รูปแบบรหัส QR ไม่ถูกต้อง” แสดงว่าเป็นสลิปโอนเงินปลอมที่สร้าง QR Code ขึ้นมาเอง นอกจากนี้ ยังสามารถเช็คสลิปปลอมกสิกรได้จากรูปภาพสลิปของลูกค้าที่ส่งมาก็จะเช็คได้เช่นเดียวกัน

วิธีเช็คสลิปปลอมธนาคารไทยพาณิชย์

ต่อมาเป็นวิธีเช็คสลิปโอนเงินไทยพาณิชย์ปลอมหรือสลิปไทยพาณิชย์ปลอม โดยการเช็คสลิป SCB ปลอมเริ่มต้นจากการเข้าไปที่แอปพลิเคชัน SCB EASY ของธนาคารไทยพาณิชย์ แล้วเลือกคำว่า ‘สแกนบิล / QR ชำระเงิน’ เลือกสลิปโอนเงินที่ต้องการตรวจสอบ หากเป็นสลิปจริงก็จะแสดงข้อมูลและรายละเอียดการโอนเงินขึ้นมาอย่างครบถ้วน หรือการตรวจสอบวิธีที่ 2 กับบริการแจ้งเตือนผ่าน SCB Connect เพียงแค่เปิดแอปพลิเคชัน LINE บนสมาร์ตโฟน ค้นหา @SCB Connect ในช่องค้นหาแล้วกดเพิ่มเพื่อน พร้อมกรอกข้อมูลและยืนยันตัวตน ต่อไปนี้ไม่ว่าเงินจะเข้าหรือเงินออกคุณก็สามารถรู้ความเคลื่อนไหวได้ในทันที

วิธีเช็คสลิปปลอมธนาคารกรุงไทย

สำหรับวิธีเช็คสลิปปลอมกรุงไทยหรืออัพเดทวิธีเช็คสลิปกรุงไทย สามารถสแกน QR Code ได้ง่าย ๆ ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนด้วยแอป Krungthai NEXT ซึ่งเริ่มต้นใช้งานได้อย่างสะดวกและรวดเร็วเพียงแค่ 3 ขั้นตอนเท่านั้น ได้แก่ เข้าแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT แล้วเลือกเมนูสแกน จากนั้นเลือกสลิปโอนเงินที่ต้องการตรวจสอบ เพียงเท่านี้ก็จะแสดงข้อมูลขึ้นมาอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นชื่อผู้โอน ผู้รับโอน จำนวนเงิน และวันที่โอนเงิน นอกจากนี้ ยังสามารถสมัครและลงทะเบียน LINE Krungthai Connect เพื่อรับการแจ้งเตือนเงินเข้าและเงินออก พร้อมรับรู้ทุกการเคลื่อนไหวของบัญชีคุณได้อย่างครบถ้วน

วิธีเช็คสลิปปลอมธนาคารออมสิน

วิธีการเช็คสลิปปลอมออมสิน หรือการเช็ค LINE ปลอมของธนาคารออมสิน เพื่อป้องกันการถูกหลอกถามข้อมูลทางการเงิน อย่างแรกควรสังเกตชื่อ LINE Official Account ต้องใช้คำว่า ‘GSB Society’ หากเป็นคำอื่น ๆ หรือสะกดผิดแสดงว่าเป็นของปลอม และจะต้องมีเครื่องหมายโล่สีเขียวอยู่หน้าคำว่า ‘GSB Society’ แปลว่าบัญชีพรีเมียมที่ได้รับการตรวจสอบและรองรับจากบริษัทไลน์ (ประเทศไทย) ที่มั่นใจและเชื่อถือได้

“บอทเช็กสลิปโอนเงิน Thunder Solution” ตัวช่วยเช็คสลิปปลอมทุกธนาคาร แม่นยำ 100%

จาก 4 วิธีเช็คสลิปปลอมผ่านธนาคารจากเบื้องต้นที่ได้กล่าวไป เราพบว่ามีปัญหาจากตัวแอปพลิชั่นของธนาคารที่พบได้บ่อยๆคือ การแจ้งเตือนจากธนาคารล่ม หรือ SMS จากธนาคารล่าช้า ทำให้บางครั้งร้านค้าหรือพนักงานอาจไม่ได้รับหรือทำการตรวจสอบยอดโอนได้แบบทันที

เราจึงอยากแนะนำให้ได้รู้จักวิธีการตรวจสลิปปลอมที่ง่ายที่สุดแล้วรวดเร็วที่สุด แถมยังตรวจสอบได้แบบ Real-time แถมยังมีความแม่นยำ 100% อย่างบอทเช็กสลิปของ Thunder Solution บริการตรวจสอบสลิปโอนเงินอัตโนมัติผ่าน Line Bot ช่วยตรวจสลิปปลอม ผ่าน Line OA

ซึ่งข้อดีคือทาง Thunder Solution ได้เชื่อมต่อระบบ API Slip Verification กับธนาคารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ธนาคารกสิกร ไทยพาณิชย์ กรุงเทพ กรุงไทย ออมสิน ไว้แล้ว ทำให้เราเพียงแค่ส่งสลิปโอนเงินเข้ามาในห้องแชท Thunder Solution ก็จะตรวจสอบยืนยันสลิปโอนเงิน แล้วแจ้งผลการตรวจสอบและส่งผลการตรวจสอบกลับมาให้เราในห้องแชทนั้นทันที หมดปัญหา แอปธนาคารล่ม SMS แจ้งเตือนช้า ได้อย่างแน่นอน

และที่สำคัญ Thunder Solution จะสแกน QR Code ตรวจสอบกับทาง API ของธนาคารโดยตรง จึงมั่นใจได้เลยว่าข้อมูลที่ตรวจสอบนั้นเชื่อถือได้แน่นอน แถมยังเปลี่ยนห้องแชทไลน์ห้องเดียวใช้ได้กับสลิปโอนเงินจากทุกธนาคาร

สรุปวิธีเช็คสลิปปลอมจากหลายธนาคาร

ในปัจจุบันนี้หลายธนาคารมีแอปพลิเคชันสำหรับทำธุรกรรมทางการเงินอยู่แล้ว รวมถึงฟังก์ชันการสแกน QR Code ที่สามารถตรวจสอบรายละเอียดการโอนเงินจากบุคคลอื่นได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้งานของธนาคารไหนก็ตาม อย่าลืมตรวจสอบข้อมูลและรายละเอียดการโอนเงินให้ดีก่อนที่จะส่งของ ซึ่งสามารถนำวิธีเช็คสลิปปลอมจาก 4 ธนาคารที่เราได้แนะนำไปใช้ได้ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เรื่องสลิปปลอมเกิดขึ้นกับตัวเอง รวมถึงยังช่วยให้รู้ทันกลโกงของเหล่ามิจฉาชีพได้อีกด้วย

ในปัจจุบันนี้การโอนเงินสามารถทำได้ด้วยระบบออนไลน์ผ่าน Mobile Banking ที่ช่วยให้ผู้คนสามารถใช้จ่ายได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในทุกวันนี้ เพราะสามารถทำได้ง่าย ๆ ผ่านออนไลน์โดยที่ไม่ต้องเดินทางไปธนาคารให้เสียเวลา ส่งผลทำให้การซื้อขายสินค้าและบริการต่าง ๆ เป็นเรื่องง่าย ด้วยเหตุผลนี้เองจึงทำให้เหล่ามิจฉาชีพอาศัยช่องว่างต่าง ๆ เพื่อสร้างกลโกงขึ้นมาหลอกร้านค้าจนทำให้เกิดความเสียหายจำนวนมาก ในวันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกันว่าวิธีเช็คสลิปโอนเงินปลอม วิธีดูสลิปปลอม วิธีตรวจสอบสลิปปลอมควรทำอย่างไร เพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

สลิปโอนเงินปลอมคืออะไร

สลิปปลอม หรือสลิปโอนเงินปลอม เป็นสิ่งที่เหล่ามิจฉาชีพสร้างขึ้นมาเพื่อเอาไว้ใช้หลอกพ่อค้าและแม่ค้า โดยในสลิปโอนเงินปลอมจะมีการระบุจำนวนเงิน ชื่อผู้ส่ง ผู้รับ ว่าได้โอนเงินเสร็จเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้ทางร้านค้าต่าง ๆ ส่งสินค้าให้ แต่ในความเป็นจริงแล้วยังไม่ได้ทำการชำระเงินให้กับร้านค้าตามที่ระบุในสลิปโอนเงิน จึงทำให้พ่อค้าและแม่ค้าเกิดความเสียหายจากกลโกงนี้ของเหล่ามิจฉาชีพ

7 วิธีเช็คสลิปโอนเงินปลอม มีวิธีเช็คอย่างไรบ้าง

เป็นเรื่องปกติที่ทุกวันนี้วิธีการจ่ายเงินด้วยระบบ Mobile Banking ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะช่วยอำนวยความสะดวกสบายในการใช้จ่าย ซึ่งหลักฐานชิ้นสำคัญในการโอนเงิน นั่นก็คือ ‘สลิปโอนเงิน’ และข่าวในทุกวันนี้ที่ยังพบได้บ่อยครั้งคือเรื่องของการปลอมแปลงสลิปโอนเงิน เพื่อแจ้งต่อร้านค้าว่าโอนเงินเรียบร้อยแล้ว ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ทำธุรกรรมใด ๆ เพื่อเป็นการป้องกันการตกเป็นเหยื่อของเหล่ามิจฉาชีพ ไปดูกันว่า 7 วิธีเช็คสลิปปลอมยังไง ตรวจสลิปปลอมดูยังไงและมีอะไรบ้าง

1.สังเกตความละเอียดของตัวเลข และตัวหนังสือ

วิธีเช็คสลิปออนไลน์ปลอมข้อแรกคือการสังเกตที่ตัวหนังสือและตัวเลขในสลิป โดยจะดูที่ความหนา และความบางที่บางตัวอาจไม่เท่ากัน เหมือนกับมีการนำฟรอนต์ที่ใกล้เคียงมาตัดแปะเพิ่มเติมเข้าไป ซึ่งจะสังเกตเน้นไปที่ชื่อผู้รับโอน วันที่ เวลา และจำนวนเงิน หากพบถึงความผิดปกติควรยกเลิกออเดอร์ในทันที เพื่อป้องกันสลิปโอนเงินปลอมจากมิจฉาชีพ

2.ตรวจสอบรายการเข้า-ออกของเงินในบัญชี

อีกหนึ่งวิธีตรวจสลิปปลอมที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองคือการตรวจสอบรายการเงินเข้าในบัญชี ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบผ่านแอปพลิเคชันของธนาคาร การแจ้งเตือนผ่านไลน์ หรือบริการแจ้งเตือนผ่าน SMS โดยตรวจสอบดูว่ามีรายการเงินเข้าตรงกับข้อมูลบนสลิปโอนเงินของลูกค้าหรือเปล่า ทั้งจำนวนเงิน วันที่ และเวลาโอนเงิน หากพบว่ารายการเงินเข้าตรงกับสลิปโอนเงินแสดงว่าสลิปนั้นเป็นของจริง

3.ใช้บริการแจ้งเตือนเงินเจ้าของธนาคาร

หลายธนาคารจะมีการกำหนดการเลือกใช้บริการแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชัน Mobile Banking หากมีการโอนเงินเข้าบัญชี แอปพลิเคชันของธนาคารก็จะมีการแจ้งเตือนเป็นข้อความผ่านทาง SMS หรืออีเมล ว่าได้รับเงินเข้าบัญชีเรียบร้อยแล้ว สามารถตรวจสอบรายการเงินเข้าในบัญชีได้เลย หากมีการโอนเงินจริงก็สามารถรับประกันได้ว่าไม่ใช่สลิปโอนเงินปลอม

4.สแกน QR Code บนสลิปโอนเงิน

QR Code ที่ปรากฏอยู่บนสลิปโอนเงินจะเป็นรูปแบบของ E-Slip ที่สามารถสแกนตรวจสอบสลิป และสแกนเช็คสลิปตรวจสอบได้ถึงรายละเอียดจำนวนเงิน ชื่อผู้โอน วันที่ และเวลาในการโอน โดยวิธีสแกนตรวจสอบสลิปเริ่มต้นจากการเปิดภาพสลิปโอนเงินที่ได้รับ นำโทรศัพท์อีกเครื่องเปิดแอปพลิเคชันธนาคาร กดเลือกเมนูสแกนจ่าย นำกล้องไปสแกน QR Code จากนั้นระบบจะทำการตรวจสอบข้อมูลที่แสดงผลลัพธ์ขึ้นมาในทันที หากไม่สามารถสแกนดูที่ QR Code ได้ สันนิษฐานได้ว่าอาจเป็นสลิปโอนเงินปลอม เพียงเท่านี้ก็จะเป็นวิธีสแกนสลิปโอนเงิน และวิธีตรวจสอบสลิปโอนเงินปลอมที่สามารถรู้ได้ทันที

5.ใช้ประโยชน์จาก LINE Connect ธนาคาร

ถึงแม้ว่าวิธีนี้จะไม่ใช่วิธีตรวจสอบสลิปโอนเงินปลอมโดยตรง แต่ก็สามารถใช้ประโยชน์จาก LINE Official เพื่อรับการแจ้งเตือนธุรกรรมการเงินของธนาคารได้ โดยจะต้องผูกบัญชีออมทรัพย์เพื่อแจ้งยอดเงินเข้า-ออกบัญชีธนาคารที่ปรากฏข้อมูลของ LINE Official เป็นอีกหนึ่งช่องทางแจ้งเตือนที่สามารถตรวจสอบยอดโอนเงินได้ในห้องแชท

6.บริการ Slip Verification API ผ่านธนาคาร

สำหรับบริการ Slip Verification API ใช้สำหรับการตรวจสอบสถานะและรายละเอียดการโอนจ่ายของการทำรายการผ่าน Mobile Banking ไปยังปลายทางที่เป็นบัญชีของธนาคารต่าง ๆ โดยจะนำเอารหัสอ้างอิงของการทำรายการนั้น ๆ ที่มีข้อมูลอยู่ใน QR Code ที่แสดงอยู่บน Transfer Slip มาใช้ในการทำ Verification ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยในการตรวจสอบสลิปโอนเงินปลอมได้

7.ใช้ระบบตรวจสอบสลิปโอนเงินอัตโนมัติในการจัดการร้านค้า

หากร้านค้าของคุณมียอดการสั่งซื้อเป็นจำนวนมากและมียอดการโอนเงินเข้าหลายรายการ นี่คืออีกหนึ่งวิธีที่พร้อมจะช่วยทำให้เรื่องของการเช็คสลิปปลอมเป็นเรื่องง่าย ซึ่งการเลือกใช้ระบบตรวจสอบสลิปโอนเงินอัตโนมัติในการจัดการร้านค้าจะคอยทำการตรวจสอบออเดอร์แบบอัตโนมัติโดยที่เจ้าของร้านไม่ต้องมานั่งสแกนสลิปทีละใบให้เสียเวลา หรือแม้แต่การเข้าแอปพลิเคชันธนาคาร การสแกน QR Code ที่มีบนสลิปก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป ช่วยลดปัญหาให้กับร้านค้าขนาดใหญ่ได้เป็นอย่างมาก

เรื่องของการตรวจสอบสลิปปลอมสามารถไว้ใจ Thunder Solution ได้เป็นอย่างดี เพราะมีบริการตรวจสลิปปลอมและบริการสแกนตรวจสอบสลิปปลอมอัตโนมัติที่ได้รับการพัฒนาให้สามารถตรวจสอบสลิปได้แบบเรียลไทม์จากทุกธนาคารในประเทศไทย พร้อมด้วยระบบจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลของสลิปโอนเงินที่เข้ามายังร้านผ่านบริการ 2 ประเภท ได้แก่ LINE Chatbot และ LINE OA ที่มีทั้งบริการอันรวดเร็วและแม่นยำในการเช็คสลิปโอนเงินปลอม เพื่อช่วยลดภาระงานต่าง ๆ ของร้านค้า ทั้งเจ้าของร้านและพนักงาน

ข้อดีของการใช้ระบบตรวจสอบสลิปโอนเงินอัตโนมัติ

• สะดวกในการตรวจสอบเพราะเพียงไม่กี่ขั้นตอนเราก็สามารถตรวจสอบยอดเงิน เวลา วันที่ ที่โอนเข้ามามียอดเงินเข้าจริงหรือเปล่านั้นเอง
• ประหยัดเวลา หมดปัญหาสลิปปลอมให้ร้านค้าเอาเวลาไปทำอย่างอื่นได้ ไม่ต้องเสียเวลากับการตรวจสอบสลิปเอง ไม่ว่าจะเป็นการดูสลิป การแสกน QR Code เพื่อเช็คสลิป ในการทำธุรกรรมทางการเงิน
• มีความแม่นยำ เพราะใช้บริการของ Thunder Solution มีอัตราการพลาดน้อยมาก แทบจะไม่พลาดเลยเพราะสามารถเชื่อถือได้แน่นอนว่าถ้าทางเราตรวจสอบแล้วคือสลิปจริงๆ
• มีระบบ AI อัจฉริยะพร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการตรวจสอบ รับรองได้ว่ารวดเร็วและแมนยำแน่นอน
• จัดเก็บข้อมูลสลิปโอนเงินของท่านและวิเคราะห์ข้อมูลให้อย่างรวดเร็วและแมนยำ
• ดูแลท่านตลอด 24 ชั่วโมงหากมีปัญหาเกี่ยวกับสลิปปลอม หรือมีปัญหากับการใช้บริการของเรา การเลือกใช้ตัวช่วยอย่าง Thunder Solution ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีมาก เวลาตัวเจ้าของร้านไม่อยู่ก็จะสามารถเช็คยอดโอนได้ทันที ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม แถมพนักงานยังสามารถตรวจสอบได้เองอีกด้วย ประหยัดเวลาทำงานในร้านของพนักงานไปได้อีก

การเลือกใช้ตัวช่วยอย่าง Thunder Solution ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีมาก เวลาตัวเจ้าของร้านไม่อยู่ก็จะสามารถเช็คยอดโอนได้ทันที ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม แถมพนักงานยังสามารถตรวจสอบได้เองอีกด้วย ประหยัดเวลาทำงานในร้านของพนักงานไปได้อีก

นอกจากการเช็คสลิปโอนเงินปลอมผ่านไลน์แล้ว Thunder Solution ยังมีระบบหลังบ้านที่จะช่วยให้ร้านค้าสามารถเช็คทุกยอดโอนจ่ายผ่านระบบบันทึกรายจ่ายได้ ไม่ว่าจะเป็นรายวัน รายเดือน หรือรายปี ก็สามารถทำได้ เพื่อป้องกันร้านค้าของคุณไม่ตกเป็นเหยื่อของเหล่ามิจฉาชีพ

สรุปวิธีเช็คสลิปโอนเงินปลอม

สุดท้ายนี้ การปลอมแปลงสลิปโอนเงินปลอมเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่พ่อค้า แม่ค้า และหลายธุรกิจร้านค้าต้องพบเจอ หากคุณไม่อยากต้องหลงกลเหล่ามิจฉาชีพด้วยสลิปโอนเงินปลอม ลองนำ 7 วิธีเช็คสลิปโอนเงินปลอมไปทดลองใช้ดู เพราะจะสามารถช่วยป้องกันการถูกหลอกจากมิจฉาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือเลือกบริการ Thunder Solution ช่วยดูแลธุรกิจร้านค้าของคุณปลอดภัย ไร้กังวลเรื่องสลิปโอนเงินปลอมอีกต่อไป

Slip Verifications พร้อมใช้งานแล้ววันนี้ที่ Thunder Solution

Slip Verification API ระบบตรวจสอบสลิปอัตโนมัติ ผู้ช่วยสุด Smart ที่จะทำให้การจัดการร้านค้าโดยเฉพาะในส่วนของการขาย ให้ง่าย และ รวดเร็วเร็ว ยิ่งกว่าเดิม

• รองรับการตรวจสอบสลิปจากทุกธนาคาร และพร้อมเพย์
• เจ้าของร้านไม่ต้องวุ่นวายกับการตรวจสอบยอดโอนทีละยอด นั่งเช็คสลิปเองทีละใบ ปล่อยให้ระบบ Slip Verification ทำงานแทนคุณ
• ด้วยระบบที่แม่นยำ ปลอดภัย ทุกสลิปการโอนที่แนบเข้ามาจะถูกตรวจสอบอย่างละเอียด และระบบจะไม่ปล่อยผ่านหากตรวจพบความผิดปกติ
• ลดขั้นตอน และระยะเวลา เมื่อลูกค้าแจ้งการโอน ระบบตรวจสอบถูกต้อง ระบบจะแจ้งผลการตรวจสอบสลิปโอนเงินกลับมาทันทีผ่านทางไลน์กลุ่มหรือไลน์ OA ที่ร้านค้าทพหารติดตั้งบอทเช็คสลิปไว้

API คืออะไร

ระบบ API หรือ Application Programming Interface เป็นระบบ API ตรวจสอบสลิปธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อใช้ในการรับส่งข้อมูลทางดิจิทัลระหว่างธนาคารต่าง ๆ ทำให้ผู้คนสามารถเข้าถึงการทำธุรกรรมทางการเงินได้อย่างปลอดภัย สะดวก และรวดเร็ว ซึ่งการเช็คสลิปโอนเงินจะเป็นการใช้ API ตรวจสอบข้อมูลการโอนเงินอัตโนมัติ ผ่านการสมัครบริการ Slip Verification API จากธนาคารที่พ่อค้าและแม่ค้าใช้บริการอยู่ โดยสามารถเช็คสลิปโอนเงินได้แบบเรียบไทม์ผ่าน QR CODE หมดปัญหาเรื่องสลิปปลอม ช่วยเพิ่มความอุ่นใจให้กับร้านค้าได้เป็นอย่างมาก

ข้อดีของการตรวจสลิปอัตโนมัติ Slip Verification API

• ประหยัดเวลา สลิปโอนเงินจะมีจำนวนมากแค่ไหน ก็พร้อมตรวจสอบสลิปได้ในทันที
• ข้อมูลถูกต้อง ช่วยลดความผิดพลาดในการเช็คสลิป
• รองรับสลิปโอนเงินทุกธนาคาร เพียงแค่มี QR Code ก็สามารถสแกนตรวจสอบได้เลย
• ลดขั้นตอนการทำงาน ช่วยให้สามารถสรุปบัญชีในแต่ละวันได้อย่างรวดเร็ว
• ป้องกันมิจฉาชีพ หรือลูกค้าที่ส่งสลิปปลอมที่ส่งผลโดยตรงต่อรายได้ของธุรกิจ

การทำงานของ Slip Verification API

Slip Verification API เป็นระบบตรวจสอบความถูกต้องของ e-Slip โดยระบบจะทำการตรวจสอบยอดโอนอย่างละเอียด โดยอ้างอิงจากข้อมูลจากลูกค้า และ QR Code ที่ปรากฏใน e-Slip ที่ลูกค้าได้ทำการแนบภาพเข้ามาในขั้นตอนการแจ้งยอดการโอน ซึ่งรองรับ e-Slip จากทุกธนาคาร โดยไม่จำกัดธนาคารต้นทาง หรือปลายทาง

ปกติแล้ว เมื่อลูกค้าทำการรชำระเงินโดยการโอนผ่านบัญชีธนาคาร สำหรับร้านค้าโดยทั่วไปที่มีเวลาในการตรวจสอบทุกยอดโอนเงินนั้น สามารถตรวจสอบวิธการโอนเงินได้ด้วยวิธรการตรวจสอบแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น แจ้งเตือนจากธนาคาร ตรวจสอบชื่อผู่รับโอน จำนวนเงิน แต่ร้านค้าจะมั้นใจได้แค่ไหนว่าทุกยอดโอนที่ได้รับถูฏต้องจริงๆ ในยุคที่สลิปปลอมระบาด

แต่หากเปิดใช้งานระบบตรวจสอบสลิปอัตโนมัติ เมื่อลูกค้าแจ้งการโอน พร้อมแนบสลิปการโอน (e-slip) ระบบจะเข้าตรวจสอบยอดโอนนั้นทันที และหากตรวจสอบพบว่า ยอดโอน, บัญชีต้นทาง, บัญชีปลายทาง, ช่วงเวลาทำรายการ รวมถึง QR Code ถูกต้องตรงกัน จะแจ้งผลการตรวจสอบสลิปโอนเงินกลับมาทันที โดยวิธีการตรวจสอบสลิปอัตโนมัติ Slip Verification ของ Thunder Solution นั่น จะใช้วิธีการตรวจสอบผ่านทางไลน์ OA เป็นบอทเช็คสลิป เพียงส่งรูปสลิปโอนเงินเข้าไปในไลน์ที่ทำการติดตั้งบอทเช็คสลิปของ Thunder Solution ก็ตรวจสอบบได้ทันที

ระบบเช็คสลิปโอนเงินอัตโนมัติ Slip Verification API

ลดขั้นตอนการเช็คสลิปเอง จะช่วยตรวจเช็คสลิปโอนเงินให้อัตโนมัติทันที เมื่อลูกค้าแจ้งชำระค่าสินค้าพร้อมแนบสลิปโอนเงิน (e-Slip) ที่มี QR Code หรือร้านค้าอัปโหลดรูปสลิปเข้าสู่ระบบได้มากถึง 3 สลิป รองรับสลิปโอนเงินทุกแอปฯ ธนาคาร

แจ้งผลตรวจสลิปกลับมาอย่างรวดเร็ว

เมื่อมีการส่งสลิปโอนเงินเข้าไปในห้องไลน์ที่มีการติดตั้ง บอทเช็คสลิปขอธันเดอร์แล้ว ระบบจะแจ้งผลการจรวจสอบสลิปโอนเงินกลับมาแบบอัตโนมัติ พร้อมกับระบุข้อความเกี่ยวกับการตรวจสอบกลับมาทันที

บอกสถานะตรวจสอบสลิปให้ในหน้าบิล

ธันเดอร์สามารถบอกทุกสถานะสลิปโอนกลับมาทันที พร้อมระบุสาเหตุที่เช็คสลิปโอนเงินไม่ผ่าน เช่น สลิปใช้ซ้ำ, ยอดโอนต่ำกว่ายอดสุทธิ, ไม่สามารถตรวจสอบสลิปได้ เพื่อให้ร้านค้าแจ้งกลับลูกค้าได้ทันทีเมื่อสลิปโอนเงินมีปัญหา

วิธีการดูสถานะสลิปโอนเงิน

นอกจากจะช่วยตรวจสอบสลิปโอนเงินแล้ว Thunder Slip Verification ก็ยังสามารถช่วยร้านค้าจัดเก็บข้อมูลทุกยอดโอน ผ่านทางระบบ Dashboard หลังบ้าน สามารถเรียกดูข้อมูลได้ตลอดเวลา ทั้งวัน รายเดือน รายปี แถมยังเก็บข้อมูลในส่วนของสลิปที่ไม่ถูกต้องเพื่อให้ร้านค้าหรือเจ้าของร้านตรวจสอบได้อีกด้วย

ความหมายสถานะสลิปโอนเงิน

สถานะการตรวจสอบสลิปอัตโนมัติสามารถ จำแนกได้เป็น 3 กรณี ดังนี้

• ตรวจสอบสลิปสำเร็จ : สามารถตรวจสอบสลิปได้และผ่านตามเงื่อนไข พร้อมระบุวันที่ตรวจสอบและยอดจำนวนเงินโอนทุกใบสลิปโอนเงิน
• ตรวจสอบสลิปไม่ผ่าน : สามารถทำการตรวจสอบสลิปได้ แต่ไม่ผ่านตามเงื่อนไข ซึ่งระบุจะสาเหตุที่เช็คสลิปโอนเงินไม่ผ่าน เช่น สลิปใช้ซ้ำ, ยอดโอนน้อยกว่ายอดสุทธิ, ข้อมูลบัญชีไม่ถูกต้อง, สลิปหมดอายุ
• ตรวจสอบสลิปไม่ได้ : ไม่สามารถทำการตรวจสอบสลิปได้เนื่องจากขาดองค์ประกอบสำคัญของสลิป เช่น ไม่มี QR code ในรูปสลิป

สรุป Slip Verification API

การเลือกใช้ผู้ให้บริการตรวจสอบสลิปอัตโนมัติ Slip Verification API ผ่านไลน์อย่าง Thunder Solution จึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ตอบโจทย์ผู้ประกอบการได้เป็นอย่างดี เพราะในเวลาที่คุณทำการตรวจสอบสลิปการโอนเงินด้วยตัวเองอาจเกิดการตกหล่นและเกิดความผิดพลาดจนทำให้ขาดทุนได้

Thunder Solution จะช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องของการตรวจสลิปปลอม เพียงแค่สมัครสมาชิกแล้วเลือกแพ็กเกจที่เหมาะสมกับธุรกิจร้านค้าของคุณ ทำการติดตั้ง API ที่ไลน์ร้านค้าก็สามารถเริ่มต้นบริการตรวจสอบสลิปปลอมผ่านไลน์ได้ทันที ด้วยการศึกษาและพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อให้ตอบโจทย์ในการแก้ปัญหาสลิปปลอม ซึ่งสามารถตรวจสอบสลิปโอนเงินที่ใช้เวลาเพียงไม่ถึง 1 วินาที และให้ความแม่นยำสูงถึง 100% เพื่อลดภาระงานต่าง ๆ ของร้านค้าและป้องกันให้คุณไม่ตกเป็นเหยื่อของเหล่ามิจฉาชีพ